เนื่องด้วยสถานการณ์ Covid-19 ส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
บริษัทฯ จึงขอหยุดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป

ทัวร์บาหลี 4 วัน 3 คืน ชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ

บาหลี ... วันนี้เป็นเกาะที่มีความสวยงามด้วยธรรมชาติผสมผสานลงตัวกับวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใครที่ได้สืบทอดต่อกันมานับพันปี มีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมจำนวนมาก เช่น วัด วังที่มีความโดดเด่นทางวัฒนธรรม

ลักษณะของสถาปัตยกรรมบาหลี

ซุ้มประตูที่เป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมแบบบาหลี ประตูทางเข้าจะไม่กว้าง แต่ก็เดินเข้าได้สบายๆ

แท่นสำหรับบูชาเทพฯ ต่างๆ มีลักษณะคล้ายศาลพระภูมิ หลังคามุงด้วยใยมะพร้าวสีดำเป็นเส้นละเอียดและซ้อนหนาเป็นทรงจั่วสี่เหลี่ยมทั้งสี่ด้าน แท่นบูชาแต่ละแท่นมีลักษณะคล้ายศาลเพียงตาที่สร้างด้วยไม้หรือบางแห่งทำด้วยหิน และแท่นบูชาจะไม่มีตัวแทนของเทพ

แบบนี้จะมีเพียงของสังเวยตั้งอยู่ มีผ้าสีหลายสีผูกที่ใต้ฐานแท่นบูชาเท่านั้นเนื่องจากตั้งอยู่บนเสาเดียว

การเดินทางท่องเที่ยวบาหลี

สนามบินบาหลี

ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ถึงสนามบินบาหลี ประมาณ 4 ชั่วโมง 20 นาที ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองก็ไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่นาน และเมื่อรับกระเป๋าเสร็จ ก็เดินออกมาด้านนอกพบกับไกด์ท้องถิ่น

การต้อนรับจากสาวบาหลี ที่ทักทายนักท่องเที่ยวที่มาเยือนด้วยรอยยิ้มหวานๆ และมาลัยดอกลีลาวดี

ช่วงเวลาน่าเที่ยว

เนื่องจากบาหลีเป็นเกาะที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวจะเยอะมากช่วงเดือนสิงหาคม คริสต์มาส และปีใหม่ โดยสรุปถ้าต้องการเที่ยวแบบสบายๆ ชิวๆ คือระหว่าง เมษายน-กันยายน ส่วนที่อากาศเย็นจะเป็นช่วงพฤษภาคม-กรกฎาคม ในขณะฤดูฝนจะเริ่มตั้งแต่ ตุลาคม-มีนาคม

สถานที่ท่องเที่ยวในวันที่ 1

1.1 วัดอูลูบาตู
ตั้งอยู่บนหน้าผาริมทะเลฝั่งตะวันตกปลายคาบสมุทรบูกิต ถือเป็นวัดสำคัญ 1 ใน 5 แห่งที่อยู่ริมทะเล สร้างในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 11-19 ผ่านการบูรณะและได้รับการดูแลรักษาอย่างดี ภายในแบ่งเป็น 3 ส่วน ตามความเชื่อ ได้แก่ สวรรค์ มนุษย์ และบริเวณของภูตผีปีศาจ

ไฮไลท์ของการเยือนวัดอูลูวาตูนี้อยู่ที่การเป็นจุดชมวิวเมื่อพระอาทิตย์บอกลาขอบฟ้าที่งดงามและโรแมนซ์อย่าบอกใคร ผู้ที่ต้องการดื่มด่ำบรรยากาศริมหน้าผา ดูพระอาทิตย์กลมเกลี้ยงสีแดงปลั่งถูกกลืนกินโดยผืนน้ำทะเลสีคราม ต้องมาที่นี่เลย

ก่อนที่จะเดินไปชมการแสดงอีกมุมหนึ่งของวัดซึ่งจะเห็นเป็นเวทีกลางแจ้งตั้งแต่ไกลๆ ก็ต้องแวะดูความงามภายในวัดกันก่อน

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด ซึ่งถือเป็นบริเวณที่สำคัญที่สุด ห้ามนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมภายใน

ที่วัดนี้จะเสียค่าเข้าชม ก่อนเข้าในสถานที่จะต้องมีผ้าคาดเอว เพื่อเป็นการแสดงความเคารพสถานที่

สิ่งที่ต้องระวังให้ดี คือ ลิงเจ้าถิ่น มีอยู่ทั่วบริเวณวัด หากนักท่องเที่ยวเผลอในเรื่อง กระเป๋าถือ แว่นตา และอื่นๆ ที่หยิบฉวยได้ง่าย ซึ่งเค้ามีความชำนาญมาก คว้าได้ขึ้นต้นไม้เลย ไม่มีโอกาศได้คืนเลยครับ

อีกส่วนหนึ่งที่ต้องระวัง คือชะง่อนผาตรงนี้ จริงๆ ทางวัดห้ามลงไปถ่ายรูป แต่ก็ยังมีลงไปกันตามที่เห็น

1.2 ชมระบำคะชัก
แสดงทุกเย็นวันพุธ และวันเสาร์ ช่วงเวลา 17.00 19.00 น. จะมีโชว์ระบำคะชักหรือระบำลิง ซึ่งก่อนการแสดงก็จะเป็นพิธีการไหว้ครูหรือไหว้สถานที่ก่อน เช่นเดียวกันกับของไทยเรา

เมื่อเริ่มต้นการแสดง ผู้ที่แสดงเป็นพลลิงจะนุ่งผ้าตาหมากรุก เปลือยท่อนบนทัดดอกชบาแดงข้างหู ตอนนี้ลักษณะเหมือนรวมพลังกันก่อน

ก่อนที่ตัวเอกจะออกมา จะมีการประพรมน้ำมนต์จากอาจารย์

ระบำคะชัก หรือระบำลิงนี้ เป็นการตัดตอนมาจากรามเกียรติ์ ตอนพระรามกับพลวานรตามไปช่วยนางสีดา จากทศกัณฐ์ โดยพลลิงจะนั่งล้อมวงซ้อนกัน 4-5 ชั้น และโบกมือขึ้นลงโยกตัวไปมา ปากก็ร้องคะชัก คะชัก เป็นเสียงสูงต่ำแทนเครื่องดนตรีประกอบ โดยตัวเอกต่างๆ จะเดินร่ายรำไปมาในวงตรงกลางระหว่างพลลิงเหล่านั้น... หลังจากเสร็จสิ้นการแสดงก็กลับไปรับประทานอาหาร และพักผ่อนตามอัธยาศัย

สถานที่ท่องเที่ยวในวันที่สอง

2.1 ระบำบารอง

หากมาบาหลีแล้วสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือชมการแสดงที่เรียกว่า ระบำบารอง หรือบารองแด็นซ์ที่เราคุ้นหูกัน เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยว

บารอง (ฝ่ายธรรมะ)

รังดา ซึ่งเป็นฝ่ายปีศาจ ตัวแทนของฝ่ายอธรรม

พร้อมมีจำอวดมาสร้างความสนุกสนานให้แก่ผู้ชมก่อน เรียกว่าเรียกน้ำย่อย สร้างความ สนุกสนาน และเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมได้พอสมควรโดยเฉพาะผู้ชมชาวบาหลี

ฉากนี้สร้างความสนุกสนานให้กับผู้ชมไม่น้อยทีเดียว โดยเฉพาะฝ่ายตัวโกงกำลังจะโดนทำโทษ

เป็นการประจันหน้ากันระหว่าง บารองกับรังดา ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ระหว่างความดีกับปีศาจ ซึ่งในที่สุดธรรมะ ก็ชนะอธรรม ซึ่งการแสดงทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง...

2.2 ชมโรงงานผลิตผ้าบาติก

ด้านหลังห้องโชว์รูม ก็จะเป็นโรงงานผลิตผ้าบาติก ซึ่งน่าจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและนักท่องเที่ยว

การเขียนลายลงบนผ้าก่อนที่จะทำการลงสี เป็นจุดเริ่มแรกซึ่งต้องอาศัยความชำนาณเป็นอย่างยิ่ง ...หลังซื้อของที่ระลึกแล้วเดินทางต่อยัง

2.3 เดินทางต่อสู่วัด วัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ เทมภัคสิริงค์ หรือ เตียต้า เอ็มพูล

วัดแห่งนี้ชาวบาหลีส่วนใหญ่มักนิยมเรียกว่า ปุระ เตียต้า เอ็มพูล Pura Tirta Empul เป็นวัดในศาสนาฮินดู Pura แปลว่า วัด ส่วน Tirta Empul ก็หมายถึงบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ หรือบ่อน้ำพุแห่งจิตวิญญาณ

ที่ด้านหน้า เทมภัคสิริงค์ หรือก่อนเข้าไปถึงบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ เทมภัคสิริงค์ หรือ เตียต้า เอ็มพูล จะมีพราหม์สวดมนต์และทำพิธีไหว้สักการะที่โต๊ะบูชาให้ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเคารพเทมภัคศิริงค์ตามพิธีแบบฮินดู พร้อมดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นสิริมงคล

บ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ เป็นน้ำพุจากธรรมชาติที่ผุดขึ้นจากตาน้ำใต้ดินมาเป็นเวลายาวนานนับพันปี โดยไม่มีทีท่าว่าจะหมด สำหรับชื่อ เทมภัคสิริงค์ แปลว่า รอยเท้า มีเรื่องเล่าขานที่ถึงมาที่ไปของน้ำพุศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้อยู่บ้าง แต่สรุปว่า ชาวบาหลีมีความเชื่อว่าน้ำพุธรรมชาติ เตียต้า เอ็มพูล แห่งนี้พระอินทร์เป็นผู้บันดาลให้เกิดน้ำพุ ดังนั้นชาวบาหลีจึงมีความเชื่อว่าถ้าได้อาบน้ำ และดื่มกินจะเป็นสิริมงคล และขับไล่สิ่งเลวร้าย ทั้งยังช่วยรักษาโรคภัยต่างๆ ได้

2.3 ตลาดปราบเซียน

ตอนขากลับทางออกจากวัดจะมีร้านขายของที่ระลึกเรียกว่าตลาดปราบเซียน มีสินค้าที่ระลึกมากมายให้ทุกท่านได้ต่อรองซื้อกันอย่างสนุกสนาน

2.4 หมู่บ้านคินตามณี
หมู่บ้านคินตามณี ซึ่งเป็นที่พักทานอาหารกลางวัน เพื่อชมความสวยงามของทะเลสาบบารตูร์ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในบาหลี และชาวบาหลีเชื่อว่าทะเลสาบแห่งนี้มีความศักดิ์สิทธิ์เพราะเป็นที่สถิตย์ของเทวีดานู เจ้าหญิงแห่งทะเลสาบ

วิวที่สวยงามอีกส่วนหนึ่งคือ ปากปล่องภูเขาไฟบาตูร์ที่เคยระเบิดนานมาแล้วกว่า 30,000 ปี

บรรยากาศโดยรอบของภัตตาคาร บนหมู่บ้านคินตามณี บรรยากาศค่อนข้างเย็น เพราะอยู่บนพื้นที่สูง... เมื่อท้องอิ่มแล้วพักผ่อน ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ตามอัธยาศัย ได้เวลาเดินทางต่อยังวัดเบซากิ

ปุระเบซากิ หรือ Pura Besakih เป็นวัดที่มีความสำคัญที่สุดของบาหลี ตั้งอยู่เชิงเขากุหนุงอากุง เป็นวัดในศาสนาฮินดูที่ถือเป็นมารดาแห่งวัดทั้งหลาย ในบริเวณประกอบด้วยวัดเล็กๆ ถึง 23 แห่งที่เรียงรายอยู่เป็นชั้นๆ กว่า 7 ชั้นไปตามไหล่เขา มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมากตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์เลยทีเดียว วัดเล็กๆ ดังกล่าวจะมีความสำคัญแตกต่างกันไป โดยวัดที่มีความสำคัญที่สุดก็คือ ปุระเปนาตาลันอากุง Pura Penataran Agung ซึ่งเป็นศูนย์กลางของวัดเบซากิ

สถานที่ท่องเที่ยวในวันที่สาม

3.1 วัดปุรทามันอายุน (Pura Taman Ayun)
เป็นวัดที่อดีตเคยใช้เป็นวังสร้างขึ้นมาในสมัยศวรรษที่ 17 เพื่อใช้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมของกษัตริย์ราชวงศ์เม็งวี สถานที่แห่งนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก ในปี 2012

ปุราทามันอายุน หรือ วิหารทามันอายุน หรือ วัดเม็งวี เป็นวัดที่สวยงามติด 1 ใน 6 วัดของบาหลี ตั้งอยู่ที่เมืองเม็งวี ตอนกลางของเกาะ เป็นวัดขนาดใหญ่ มีพื้นที่กว้างขวาง

บริเวณทางเข้ามีรูปปั้นหน้าทางเข้าวัง เรียกว่า Guardian หรือมหาเทวา เทพผู้ปกปักรักษาไม่ให้สิ่งชั่วร้ายเข้ามาในพื้นที่อันศักดิ์สิทธิ์ตรงนี้ได้

ภายในมีเจดีย์ที่มุงด้วยฟางเป็นชั้นๆ ซึ่งอยู่ในบริเวณที่ประกอบพิธีกรรมสำคัญทางศาสนา

เจดีย์บูชาเทพเจ้าที่มีหลังคาหลายชั้นไล่เรียงกันไป สร้างเพื่อใช้ประกอบพิธีกรรมของกษัตริย์ราชวงศ์เม็งวี ในอดีต สร้างในศตวรรษที่ 17 ด้วยสถาปัตยกรรมบาลิเซียนสไตล์ ที่โดดเด่น...เสร็จแล้วเดินทางขึ้นสู่เนินเขาเพื่อทานอาหารกลางวัน

3.2 รับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารใกล้ทะเลสาบบราตัน

ทะเลสาบบราตัน ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ของทะเลสาบที่ส่งน้ำหล่อเลี้ยงชาวบาหลี

อาหารกลางวันจะเป็นลักษณะบุพเฟต์ ระหว่างการทานด้านหน้าร้านจะเห็นวิวทะเลสาบสวยงาม

3.3 ปุระอูลันดานูบราตัน

ปุราอูลันดานูบาตูร์ หรือวัดอูลันดานูบาตูร์ ซึ่งเป็นวัดใหญ่ที่ถือได้ว่าสำคัญเป็นอันดับ 2 รองจากวัดเบซากิห์ เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่โตและงดงาม

ตัววัดตั้งอยู่บริเวณริมทะเลสาบบราตัน มีลักษณะเด่นตรงศาลา ซึ่งเป็นศาลาทรงสูงที่เรียกว่า เมรุถูกมุงด้วยฟางซ้อนกันถึง 11 ชั้นสวยงามมาก ทะเลสาบบราตัน เป็นทะเลสาบที่มีชื่อเสียง มีรีสอร์ทให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการธรรมชาติแบบทุ่งหญ้า ท้องนา ภูเขา ไว้ให้พักด้วย

ในบ่อยครั้งภาพของเมรุนี้ จะปรากฎอยู่ในภาพโฆษณาของทางการท่องเที่ยวบาหลีเสมอ การเข้าชมจะเสียค่าเข้าชมคนละประมาณ 3,000 รูปี

จากบริเวณด้านหน้าเดินไปสู่ด้านหลังที่ติดกับทะเสาบ ระยะพอสมควรแต่เนื่องจากอยู่บนที่สูงอากาศเย็นสบายการเดินชมสถานที่จึงไม่รู้สึกว่าเหนื่อยเลย

ส่วนพื้นที่ตรงกลางก่อนถึงทะเลสาบ จะมีอาคารต่างๆ ทั้งที่เป็นส่วนบูชาเทพเจ้า สวนที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม

อีกส่วนหนึ่งของสวนภายในบริเวณลานวัดที่อยู่อีกด้านหนึ่งของกำแพง จะเป็นสวนสวยงาม เป็นมุมที่นักท่องเที่ยวชอบถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

ไม่ว่าจะเดินไปอยู่ส่วนใหนของบริเวณวัด ธรรมชาติจะสวยงามไปทุกจุด เหมาะแก่การถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอย่างยิ่ง

3.4 ปุระทานาล็อต Pura Tanah Lot

ใช้เวลาพอสมควรเดินทางกลับลงมาจากบนเขาเพื่อเดินทางสู่จุดไฮไล้ทของทริปนี้อีกสถานที่หนึ่งนั่นก็คือ ปุระทานาล็อต Pura Tanah Lot

ปุระทานาล็อต Pura Tanah Lot เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนชายหาด ยื่นลงไปในทะเล สร้างโดยนักบวชชาวฮินดู ตั้งแต่ศตวรรษที่11 เป็นวัดที่มมีความศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวบาหลีให้ความนับถือเป็นอย่างมาก

บางช่วงเวลา คลื่นลมแรง ทางเจ้าหน้าที่จะนำธงแดงมาปักไว้เพื่อป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไป

ยามเย็นที่ ปุระทานาล็อต นี้บางส่วนของนักท่องเที่ยวจะมานั่งรอชมพระอาทิตย์ลับขอบน้ำซึ่งจัดว่าสวยงามมากแห่งหนึ่ง

ส่วนของพื้นที่ที่ทำพิธีกรรมทางศาสนา ซึ่งเป็นเทพที่ชาวยาหลีเคารพนับถือ และไม่อนุญาติให้นักท่องเที่ยวเข้าไปด้านใน

มองไปอีกด้านหนึ่งของตัววัดจะเป็นส่วนที่ยื่นไปในทะเล แต่มีช่องลอดดูสวยงามและแปลกตา

ส่วนด้านนอกวัด จะเป็นร้านขายผลไม้และของที่ระลึก

รถรับส่ง ห้องพัก และอาหาร

รถรับส่งนั้นทางทัวร์จะจัดให้เข้ากับจำนวนลูกค้าที่เดินทาง หากเดินทางไม่เกิน 10 ท่าน ก็จะเป็นรถตู้คล้ายๆ บัสเล็ก

โรงแรมที่จัดให้ลูกค้าพักจะเป็นระดับ 4 ดาวมีให้ลูกค้าเลือกหลายโรงแรมขึ้นอยู่กับความชอบ

ส่วนของห้องน้ำ ที่ BW Kuta Resort 4*

อาหารส่วนใหญ่จะคล้ายกับอาหารจีน นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถทานได้สบายๆ ครับ

ที่ขาดไม่ได้คือการทานอาหารเย็นที่ชายหาดจิมบารัน และชมพระอาทิตย์ลับขอบน้ำ (บางครั้งอาจมาดูไม่ทันขึ้นอยู่กับการเดินทางท่องเที่ยวในวันนั้นด้วย)

ระหว่างการทานอาหารจะมีนักร้องมาขับกล่อม และร้องเพลงตามคำขอด้วย

การแสดงร่ายรำสไตล์บาหลีมีให้ชมทุกร้านอาหารของชายหาด

สนใจทัวร์บาหลี อินโดนีเซีย?

ไม่ว่าจะเป็นท่องเที่ยวส่วนตัวหรือหมู่คณะ ทางแอทสยามทัวร์ยินดีจัดให้นะคะ เราจัดให้เหมือนเราไปเอง คลิกด้านล่างนี้เพื่อดูแพ็คเกจได้ค่ะ

ทัวร์บาหลี อินโดนีเซีย

จอง/สอบถามเพิ่มเติม

02-538-8676

9:00-18:00 จ.-ส.

Line: @atsiamtour

FB Inbox

สอบถามทางอีเมล์

ชื่อ-นามสกุล:*

อีเมล์:*

กรุณาตรวจสอบการสะกดให้ถูกต้อง การตอบกลับจะถูกส่งไปที่เมล์นี้

โทรศัพท์:*

หัวข้อ:*

ข้อความ:*

กรุณาระบุรายละเอียดให้มากที่สุด เพื่อทางเราจะสามารถตอบคำถามได้รวดเร็วและตรงกับความต้องการ