เนื่องด้วยสถานการณ์ Covid-19 ส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
บริษัทฯ จึงขอหยุดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป
บริษัทฯ จึงขอหยุดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป
ท่านจะเห็นอะไรบ้าง เมื่อไปเที่ยวซาปา
ซาปา (Sapa)
ซาปา ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดลาวไค ใกล้กับชายแดนจีน ภูมิประเทศตั้งอยู่บนเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 1,650 เมตร มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี เป็นเมืองแห่งการพักผ่อนของชาวฝรั่งเศส สมัยปกครองเวียดนาม
อากาศบางช่วง อาจจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทั้งสองภาพนี้ถ่ายจุดเดียวกันเวลาไกล้เคียงแบบต่อเนื่อง
ซาปา มีอะไรให้เราดูบ้างเมื่อไปเยือน
ช่วงเวลาใดบ้างที่ควรเดินทางท่องเที่ยว ขอแนะนำว่าแบ่งเป็น 2 ช่วง
- ช่วงเดือน สิงหาคม - ตุลาคม ช่วงนี้อากาศกำลังสบายความสวยงามจะอยู่ที่นาขั้นบันใด ซึ่งข้าวกำลังออกรวงสุกเหลืองอร่าม
- ช่วง พฤศจิกายน - มีนาคม จะเป็นช่วงอากาศหนาว แต่จะมีข้อเสียหากหมอกลงมากจะมองไม่เห็นอะไรเลย
จะเห็นว่าเราสามารถมองผ่านทะลุได้ไกล้ๆ ความสวยหายแต่บรรยากาศสดชื่น
สถานที่ท่องเที่ยวเมื่อมาเยือนซาปา
- จุดชมวิวภูเขาแฮมลอง
- หมู่บ้านชนเผ่ากัตกัต
- น้ำตกซิลเวอร์
- หมู่บ้านชนเผ่าตาแหวน
- ถนนคนเดินเวลากลางคืน
- โบสถ์คริสต์
1. จุดชมวิวภูเขาแฮมลอง กว่าจะขึ้นถึงจุดชมวิวตรงนี้ได้ ก็ต้องพักกันมาหลายสถานี แต่อากาศเย็นสบายไม่ร้อนทำให้ดูไม่โหด แต่เมื่อขึ้นมายืนแล้วต้องบอกว่าคุ้มครับ แล้วลองมาดูกันซิครับว่ากว่าจะมาถึงผ่านมาอย่างไรบ้าง จุดเริ่มต้นเป็นบันใดทางขึ้น ข้างทางด้านซ้ายจะเป็นร้านขายของซึ่งช่วยผ่อนคลายได้พอสมควร
ประตูทางเข้า จะมีเจ้าหน้าที่คอยเช็คบัตรเพราะที่นี่จะมีค่าเข้าชม
ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับสัญญาลักษณ์ เพื่อให้รู้ว่าเรามได้มาขึ้นเขา แฮมลองจริงๆไม่ได้โม้
ระหว่างการเดินทางดูเหมือนสูงชัน แต่ทางเวียดนาม ทำทางขึ้นไว้ให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นอย่างสบายๆ
บางช่วงจะเป็นเนินลาด ค่อยเดินก็จะไม่รู้สึกเหนื่อย
หายเหนื่อยแล้วก็เดินทางต่อบางช่วงจะเป็นเหมือนช่องแคบ คนตัวโตอาจต้องเอียงตัวนิดหน่อย
เกือบไม่รอดเหมือนกันครับ อาจารย์
แต่เมื่อผ่านมาแล้วจะเห็นวิวที่สวยงาม โดยเฉพาะช่วงที่มีทะเลหมอก จะสวยงามเป็นพิเศษ เรียกว่าคุ้มค่าในการเดินทาง
ในที่สุดความสำเร็จก็มาถึง คณะขึ้นมาถึงจุดชมวิว และคุ้มค่าที่ได้ม่เยือนในครั้งนี้เพรามีแดด มีทะเลหมอหสวยงาม
เมื่อขึ้นถึงจุดชมวิว มองกลับลงไปจะเห็นจุดที่พักถ่ายรูปกับดอกไม้ อยู่ไกลลิบๆเหมือนกัน
ส่วนเมืองซาปา เมืองที่สวยงามโอบล้อมด้วยขุนเขาน้อยใหญ่ ใจกลางเมืองเป็นแอ่งน้ำที่ขุดขึ้นเป็นอ่างขนาดใหญ่เรียกได้ว่าเป็นทะเลสาบ และเป็นที่พักผ่อนของชาวเมืองและนักท่องเที่ยว
บางช่วงระว่างชมวิวก็จะมีทะเลหมอกพัดผ่าน ทำให้บรรยากาศได้ทั้งความสวยงาม ความสดชื่น ๙ึ่งไม่ได้เกิดขึ้นทุกครั้งของการเดินทาง
บางครั้งการเดินทางไปเป็นจังหวะที่อากาศปิด บรรยากาศที่จุดเดียวกัน ก็จะเห็นแต่ทะเลหมอกขาวโพลนไปหมด2. หมู่บ้านชนเผ่ากัตกัต หมู่บ้านกัตกัต หมู่บ้านชาวเผ่าม้ง เป็นชนเผ่าที่อพยพมาจากประเทศจีน เก่าแก่นานมาแล้ว ห่างออกไปจากซาปาประมาณ 3 กิโลเมตร การแต่งกายของชนเผ่าจะนิยมสีน้ำเงินเข้มหรือสีดำ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของซาปาตั้งอยู่ในหุบเขา
การเดินทางท่องเที่ยวที่หมู่บ้านกัตกัตนี้ เสมือนการเดินชมธรรมชาติตามเนินเขาพร้อมชมสินค้าและซื้อสินค้าที่ระลึกของชนเผ่าไปด้วย ซึ่งสินค้าจะคล้ายคลึงกับชนเผ่าแม้วทางภาคเหนือของไทยเรา
ร้านขายสินค้าจะมีอยู่ตลอดเส้นทางท่องเที่ยว เลือกซื้อตามสะดวก
จะเห็นว่าตามเส้นทางด้านขวามือจะเป็นหุบเขา มีการทำนาขั้นบันใด
เดินไปสักระยะหนึ่งจะมีคนหนุ่มสาวมานั่งขายของกินพื้นบ้านซึ่งก็คล้ายบ้านเราอีกแหละ พวกเราเลยถือโอกาศอุดหนุนและทดลองว่าอร่อยหรือเปล่า ใหนๆก็ไปถึงที่แล้ว.ผลเป็นอย่างไรต้องไปชิมเองครับ
หลังจากขามสะพานมาแล้วก็จะเป็นที่พักผ่อน มีน้ำตกสวยงาม พร้อมให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก การเดินทางกลับออกสู่ที่เริ่มต้นจะเดินเป็นวงกลม ไม่ได้กลับเส้นทางเดิม
ระหว่างเส้นทางออกก็จะมีร้านขายสินค้าตามเส้นทางเดิมแต่จะไม่มากเท่าที่เดินผ่านมา
สุดท้ายช่วงลงเนินก่อนข้ามสะพานทางออก จะเป็นร้านเครื่อออองหนัง แท้ไม่แท้คนซื้อต้องเลือกดูเองครับ3. หมู่บ้านตาแหวน
นอกจาก Cat Cat Village แล้ว ยังมีชนเผ่า คือหมู่บ้านตาแหวน เป็นหมู่บ้านไม่ใหญ่นัก ไม่น่าจะเกิน 100 หลังคาเรือน อาชีพส่วนใหญ่จะเป็นเกษตรกร ทำนา ส่วนการค้าขายไม่เห็นมีเหมือนกับ Cat Cat
เมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยม ชนเผ่าจะรีบออกมาต้อนรับด้วยการตามตื้อขานสินค้าที่ระลึก
คนขายของชนเผ่านี่มีตั้งแต่เด็กๆ จนถึงผู้สูงวัย
ข้าวเหนียวนึ่งแล้วคลุกกับน้ำฟักข้าว มีขายมี่นี่ และในตลาดสดซาปา ห่อละ 5 บาท แล้วโรยด้วยพริกเกลือของชาวเขา ..กินแล้วอร่อยดีไม่ต้องมีกับข้าว
การทำนาขั้นบันใดของชนเผ่า หมู่บ้านตาแหวน
4. หมู่บ้านเกรียงตาชัย
ลักษณะของหมู่บ้าน บรรยากาศก็จะคล้ายๆกับหมู่บ้านทางภาคเหนือของเราหลังฝนตกใหม่ๆ
ช่วงนี้เค้าห้ามรถเข้าเลยต้องเดินไปสู่เป้าหมายตามไกด์แนะนำ คือบ้านที่ให้บริการแช่อบน้ำสมุนไพร เช่นเดียวกันระหว่างเดินนักขายก็จะเดินตามตื้อขายของตลอดเวลา
การเสนอขายยังตามอยู่ตลอดเวลาขนาดกลับมาขึ้นรถแล้วยังยืนรอขายต่ออีก ในส่วนของหมู่บ้านเรานักท่องเที่ยว ก็ได้มาดูมาเห็นสิ่งที่แตกต่างไปจากบ้านเรา อากาศที่นี่จะหนาวเย็นไม่ร้อนเหมือนบ้านเรา
5. โบสถ์คริสต์ ซาปา
โบสถ์คริส ซาปา เป็นโบสถ์หินอ่อนเพียงแห่งเดียวของเมือง ซาปาสร้างสมัยฝรั่งเศสเข้ามาปกครองประเทศเวียดนาม ตั้งแต่ คศ. 1930 โบสถ์แห่งนี้จึงศูนย์รวมความศรัทธาของชาวซาปา ที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ภายในโบสถ์แต่งด้วยศิลปโกธิค บริเวณภายหน้าโบสถ์เป็นลานกว้าง ซึ่งใช้เป็นจุดนัดพบระหว่างนักท่องเที่ยว และพ่อค้าแมม่ค้าชาวเขา อีกทั้งเป็นที่ถ่ายภาพยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเยือนซาปายามเย็นลานหน้าโบสถ์จะกลายเป็นตลาดนัดสินค้าชาวชนเผ่า ซึ่งมีให้นักท่องเที่ยวใด้เลือกซื้อกันอย่างมากมาย
หากใครหิวมีอาหารสำรองแบบตั้งโต๊ะขาย จำพวกปิ้งย่าง ให้ได้รองท้องก่อนซึ่งคล้ายๆบ้าน
6. บรรยากาศทั่วๆไปตลาดเมืองซาปา
6. บรรยากาศทั่วๆไปตลาดเมืองซาปา
ท้ายที่สุดลองมาดูบรรยากาศ ในตัวตลาดของซาปา ซึ่งยังคงธรรมชาติและการดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างสงบเงียบ ไม่เร่งรีบรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีแบบชนเผ่าไว้ และนี่ก็เป็นเหตุทำให้ผู้คนจากทุกมุมโลก มาเยี่ยมเยือนซาปาอย่างไม่ขาดสาย