เนื่องด้วยสถานการณ์ Covid-19 ส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
บริษัทฯ จึงขอหยุดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป
บริษัทฯ จึงขอหยุดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป
พาเที่ยวลาว หลวงพระบาง วังเวียง เวียงจันทน์ จำปาสัก

ส่วนมากเราจะเรียกกันว่า ประเทศลาว บ้านพี่เมือน้องสื่อสารกันรู้เรื่องเลยไม่ต้องแปล...การเดินทางยังเมืองหลวงพระบางสามารถไปได้ทั้งเครื่องบิน รถยนต์และทางเรือ เรามาดูกันหน่อยว่าน้องลาวเมื่อไปเที่ยวแล้วมีอะไรน่าดูกันบ้าง
หลวงพระบาง
- วัดเชียงทอง
- พระราชวังหลวงพระบาง พิพิธภัณฑ์หลวงพระบาง
- หอพระบาง
- พระธาตุพูสีี
- ตลาดมืด
- ตักบาตรข้าวเหนียว
- ตลาดเช้าหลวงพระบาง
- ล่องเรือเลียบแม่น้ำโขง ชมพระอาทิตย์ตกดิน
- ล่องเรือลำน้ำโขงชมถ้ำติ่ง
- น้ำตกตาดกวางสี
- น้ำตกตาดแส้
- วัดแสนสุขาราม
- วัดวิชุนราช
- วัดหนองศรีคูนเมือง
- วัดพระมหาธาตุราชบวรวิหาร (วัดทาดน้อย)
- ตึกสไตล์โคโลเนียล
- บ้านเจ๊ก
- เฮือนมรดกโลกเชียงม่วน
- บ้านผานม
- ตลาดม้ง
- ร้านประชานิยม
- รถที่ใช้บริการ
- วัดพระธาตุหลวง
- ประตูชัย
- หอพระแก้ว
- วัดศรีเมือง
- วัดศรีสะเกด
- เมืองสวนพระ
- หอพิพิธภัณฑ์ แห่งชาติลาว
- ตลาดนัดกลางคืน
- นั่งเรือล่องแม่น้ำซอง
- พายเรือคายัคล่องแม่น้ำซอง
- นั่งทานอาหารในแม่น้ำซอง
- นั่งบอลลูนชมวิว
- ถ้ำจัง
- ถ้ำช้าง
- บลูลากูน
- นั่งห่วงยาง ลอดถ้ำน้ำ
- สีสรรยามค่ำคืน

สนามบินหลวงพระบางเป็นสนามบินไม่ใหญ่โตนักบรรยากาศสบายๆไม่ต้องรีบเร่ง
หลวงพระบาง
เมืองเล็กๆที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ โอบล้อมด้วยแม่น้ำสำคัญ 2 สาย คือ แม่น้ำคานและแม่น้ำโขง มีบรรยากาศเงียบสงบ ผู้คนใช้ชีวิตเรียบง่าย มีวัฒนธรรมประเพณีเป็นเอกลักษณ์ มากมายด้วยวัดวาอาราราม อาคารบ้านเรือนเก่าแก่ที่ผสมผสานระหว่างศิลปะแบบล้านช้างและสไตล์โคโลเนียลได้้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก เมื่อปี พ.ศ. 2540

เมื่อลงจากเครื่องแล้วเดินเข้าสู่อาคารแต่ก็ไม่ลืมที่จะถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

พิธีบายศรีสู่ขวัญซึ่งไทยอิสานและลาวมีพิธีคล้ายกัน
วัดหลวงประจำราชวงศ์ล้านช้าง ราชวงศ์หลวงพระบางและราชวงศ์ลาว สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2102 - 2103 ในสมัยของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช นับเป็นตัวแทนของศิลปะสกุลช่างล้านช้างที่งดงามและสมบูรณ์ เป็นวัดสำคัญวัดเดียวที่ไม่ถูกเผาทำลายในศึกฮ่อธงดำบุกปล้นเมืองหลวงพระบางใน พ.ศ. 2428

ช่วงเดินทางช่วงนั้นวัดอญู่ระหว่างการบูรณะซ่อมแซม

หอพระธรรมด้านนอกโดยรอบเป็นเรื่องเล่าต่างๆของชนพื้นบ้าน

อีกหนึ่งของความสวยงามภายในบริเวณวัดเชียงทอง
พระราชวังหลวงพระบางเป็นอาคารแบบฝรั่งแต่หลังคาเป็นแบบทรงลาว ตัวพระราชวังเป็นหมู่อาคาร ชั้นเดียวยกพื้นสูง มีความงดงามของศิลปะยุคอาณานิคมผสมกับศิลปะแบบล้านช้าง พิพิธภัณฑ์หลวงพระสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2447 สมัยเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ สืบทอดต่อมาถึงสมัยเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา ภายหลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง รัฐบาลลาวก็ได้เปลี่ยนพระราชวังหลวงมาเป็นหอพิพิธภัณฑ์

พระบางพุทธลาวัลย์ หรือ พระบาง เป็นพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร สูงสองศอกเจ็ดนิ้ว หล่อด้วยสำริด มีอายุอยู่ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 18 ถึงตอนต้นของพุทธศตวรรษที่ 19 ตามศิลปะเขมรแบบบายนตอนปลาย โดยมีพุทธลักษณะคือ ประทับยืนยกพระหัตถ์ขึ้น นิ้วพระหัตถ์เรียบเสมอกัน พระพักตร์ค่อนข้างเป็นรูปสี่เหลี่ยม


ยอดเขาพูสี ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงพระบาง เดินขึ้นไปบนยอดเขาทางบันไดประมาณ 328 ขั้น ด้านบนจะสามารถมองเห็นเมืองหลวงพระบาง แม่น้ำโขงและแม่น้ำคานได้แบบ 360 องศาและช่วงเวลาที่งดงามมากที่สุด คือช่วงยามเย็น ที่มีแสงแดดสาดส่องมายังพระธาตุให้เห็นเป็นสีทองเหลืองอร่ามตา เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวรอชมความสวยงามของพระอาทิตย์ยามอัสดง

พระธาตุเหลืองอร่ามยามต้องแสงอาทิตย์ยามเย็น

บรรยากาศเมืองหลวงพระบางจากยอดพระธาตุ
ตลาดมืด หรือเรียกแบบภาษาไทยว่า ตลาดค่ำหรือถนนคนเดิน ที่นี่เขาจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวกับงานฝีมือ หัตกรรม ของชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่สามารถซื้อกลับมาเป็นของฝาก เครื่องประดับจะเห็นเยอะ ของประดับบ้าน เสื้อยืดที่ระลึก กางเกงผ้าฝ้ายที่ระลึกหลวงพระบาง ฯลฯ

ตลาดมืดมีสินค้าให้นักท่องเที่ยวได้ช้อปกันมากมาย

ช่วงเวลาก่อนที่ความมืดจะผ่านเข้ามา
ตักบาตรข้าวเหนียว หลวงพระบาง ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวหรือคนหลวงพระบางเองสถานที่สำหรับตักบาตรข้าวเหนียวนั้นก็หาไม่ยาก จะอยู่บริเวณหน้าวัดแสน พอได้เวลาจะมีพระเณรเดินออกมารับบาตรจำนวนมาก เป็นประจำแบบนี้ทุกๆเช้า

พระที่ออกมารับบาตรจะมาเป็นสายๆจำนวนมากเลยทีเดียว

ระหว่างรับบาตรนักท่องเที่ยวก็จะถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
ตลาดเช้าหลวงพระบางเป็นตลาดสดแบบดั้งเดิมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในหลวงพระบาง นอกจากจะได้สัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนแล้ว ยังสามารถหาอาหารมื้อเช้ากินในราคาประหยัดได้อีกด้วย หลังจากใส่บาตรข้าวเหนียวแล้ว สามารถแวะเดินชมตลาดเช้าหลวงพระบางก่อนไปเที่ยวต่อ

ส่วนของแม่ค้าที่อยู่ภายนอกตัวโรงเรือนจะเป็นแบบชาวบ้านๆ

สินค้าผักสด ปลาแม่น้ำ คล้ายตลาดต่างจังหวัดของเรา

อาหารเช้าสำหรับคนทำงาน..อร่อยได้ใจแถมราคาถูก
Mekong Kingdoms มีเรือหลากหลายประเภท ทั้งแบบล่องทั้งวันหรือจะเป็นช่วงเย็น เรือ Monsoon Sunset Cruise ซึ่งจะใช้เวลาล่องประมาณ 2 ชั่วโมง ตั้งแต่ช่วงเย็นจนไปถึงพระอาทิตย์ตกดินเลย ช่วงเวลา 16.00-18.00 น.

ถ้ำติ่ง ประกอบไปด้วย 2 ถ้ำ แยกขวาไปถ้ำลุ่ม แยกซ้ายไปถ้ำเทิง ถ้ำลุ่มหรือถ้ำติ่งล่างนั้น สูง 60 เมตรจากพื้นน้ำมีลักษณะเป็นโพรงถ้ำตื้นๆ มีหินงอกหินย้อยเล็กน้อย เป็นถ้ำที่มีพระพุทธรูปจำนวนมากหลายขนาด ส่วนใหญ่จะเป็นพระยืน มีทั้งปางประทานพร และปางห้ามญาติ ความสำคัญของถ้ำติ่งในสมัยโบราณเป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง

ระหว่างการล่องเรือสู่ถ้ำติ่ง

ภาพปากถ้ำจะมีเรือของนักท่องเที่ยวจอดชมถ้ำอยู่ตลอดเวลา

ภายในบริเวณถ้ำติ่งลุ่ม
น้ำตกที่สวยที่สุดในหลวงพระบาง เป็นน้ำตกหินปูน สูงประมาณ 70 เมตร มีสองชั้น สภาพป่าโดยรอบร่มรื่น มีสะพานและเส้นทางเดินชมรอบๆน้ำตกและเดินเลาะข้างน้ำตกไปชมน้ำตกชั้นบนสามซึ่งเล่นน้ำบริเวณลำธารได้ นอกจากความงามของน้ำตกแล้วยังหาซื้อของที่ระลึกที่ทางเข้าน้ำตก ซึ่งเป็นสินค้าพื้นเมืองที่ทำจากไม่ไผ่เป็นของใช้หลายชนิด

น้ำตกช่วงเดิอนกันยายน น้ำจะมาก

อีกมุมหนึ่งของน้ำตกช่วงเดิอนกันยายน

น้ำเยอะจนท่วมที่ชมวิว
น้ำตกตาดแส้เป็นน้ำตกหินปูนขนาดกลาง ชั้นของน้ำตกอาจไม่สูงชันมากนักเมื่อเทียบกับน้ำตกตาดกวางซีแต่ความสวยงามของน้ำตกตาดแส้นี้อยู่ตรงสายน้ำที่ไหลอาบมาตามลานหินกว้างลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆลงสู่แอ่งเบื้องล่างเสมือนเป็นสระว่ายน้ำตามธรรมชาติขนาดใหญ่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนซึ่งจะมีน้ำมากเป็นพิเศษ

ความสวยของน้ำตกเมื่อไปแล้วอยากอยู่นานๆ

อีกมุมหนึ่งของความสวยงาม
วัดแสนสุขาราม
วัดเก่าแก่ที่ถูกสร้างภายหลังหลวงพระบาง แยกออกจากนครเวียงจันทร์ได้ 11 ปี และบริเวณที่สร้างวัดแสนสุขาราม เคยมีวัดเก่าอยู่ก่อนหน้านั้นอยู่แล้ว วัดแสนสุขารามถูกสร้างขึ้นเมื่อ คริสตวรรษที่ 15 สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดก็คือ พระยืนองค์ใหญ่ที่สุดในหลวงพระบาง มีพระพักตร์ที่งดงามและเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มรดกทางวัฒนธรรมที่น่าไปสัมผัสและเยี่ยมชม

วัดวิชุลราชหรือวัดวิชุน
วัดเก่าแก่ที่สุดของเมืองหลวงพระบาง สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๐๔๖ ในรัชสมัย พระเจ้าวิชุนราช แห่งอาณาจักรล้านช้าง โดยตั้งชื่อวัดตามพระนามของพระองค์ เมื่อสร้างเสร็จแล้วได้อัญเชิญ “พระบาง” จากวัดมโนรมย์มาประดิษฐานที่วัดนี้ ก่อนจะอัญเชิญไปประดิษฐานที่ หอพระบาง ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง

เจดีย์ที่ส่วนยอดคล้ายแตงโมผ่าซีก

ตัวโบสถ์รุ่นเก่าดูสวยงามการก่อสร้างก็ไม่ยุ่งยาก

พระพุทธรูปพระประธาน
เดิมเป็นวัดขนาดใหญ่มีศาสนสถานที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมมากมายแต่เนื่องจากถูกไฟไหม้ในปีพ.ศ. 2317 ทำให้พระอุโบสถเสียหายเกือบทั้งหลัง ภายหลังได้รับการบูรณะและก่อสร้างเพิ่มเติมจนสวยงามขึ้นมาใหม่ ภายในพระอุโบสถประดิษฐาน พระเจ้าองค์แสน พระพุทธรูปสำคัญของเมือง ตามตำนานกล่าวไว้ว่าลอยตามแม่น้ำโขงมาแต่เมืองเชียงแสน และมาขึ้นที่เมืองหลวงพระบาง ชาวหลวงพระบาง ให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก

ภายนอกโบสถ์ดูเรียบง่ายสวยงาม

หน้าโบสถ์รูปแกะสลักต่างๆดูแล้วสบายตา
วัดพระมหาธาตุราชบวรวิหาร (วัดทาดน้อย)
วัดพระมหาธาตุ สร้างในปีพ.ศ. 2091 ได้รับการบูรณะมาแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งที่สำคัญ เกิดขึ้นในปีพ.ศ.2453 โดยเจ้ามหาอุปราชบุญคงภายในสิม (อุโบสถ) แบบล้านช้างมี "ราวเทียน" รูปนาค 24 ตัว ฝีมือการแกะวิจิตรงดงาม หน้าสิมมีเจดีย์ธาตุองค์ใหญ่ บรรจุอัฐิของเจ้าเพชรราชรัตนวงศา อดีตนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศลาว และถือเป็นรัฐบุรุษของประเทศลาวยุคใหม่ เฉพาะพระอุโบสถขนาดใหญ่ มีการตกแต่งเพิ่มเติมรูปสลักบนบานประตูและหน้าต่าง แสดงเรื่องเล่าชาดกพระสุธนมโนราห์ดูสวยงามเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นฝีมือสกุลช่างพ่อเฒ่าเพียตัน ด้านหลังมีพระธาตุเจดีย์ยอดทรงระฆังประดับเศวตฉัตร 17 ช่อ นั้นหมายถึง วัดนี้สร้างโดย
พระมหากษัตริย์หรือเจ้าชีวิต

ถือว่าเป็นสุดยอดของศิลปแบบล้านช้างน่าไปชมเป็นอย่างยิ่ง
ตึกสไตล์โคโลเนียล
โคโลเนียล' รูปแบบสถาปัตยกรรมที่มีต้นกำเนิดมาจากยุคล่าอาณานิคม จนเกิดเป็นการผสมผสานทางรูปแบบสถาปัตยกรรมของตะวันตกที่ลงตัวกับเอกลักษณ์และบริบทของท้องถิ่นอย่างกลมกลืนซึ่งรูปแบบของการก่อสร้างอาคารในสมัยนั้นให้เป็นในรูปแบบตะวันตกมากขึ้นเพื่อสร้างความศิวิไลซ์ให้เกิดขึ้นในทัศนะของนานาชาติ อีกนัยหนึ่งคือเพื่อทำให้ประเทศจักรวรรดินิยม
ต่างๆ มองเห็นว่าประเทศไทยเป็นดินแดนที่มีอารยธรรมตามแบบฉบับของบ้านเมืองที่มีการพัฒนาแล้วนั่นเองแบบบ้านแบบบ้านสวยโคโลเนียลColonial

ความงามของศิลปสมัยเป็นอาณานิคมฝรั่งเศษที่ยังคงอนุรักษ์ไว้
บ้านเจ๊ก
ย่านบ้านจีนเก่าสไตล์ยุโรป เป็นย่านการค้าเก่าแก่ของเมืองหลวงพระบาง ที่เีรียกว่าบ้านเจ็ก เนื่องจากว่า สมัยก่อนเป็นย่านร้านค้าและที่อยู่อาศัยของคนเชื้อสายจีน(เจ็ก) ตึกแถวในละแวกนี้มีลักษณะเป็นห้องแถวแบบจีน แต่ประดับตกแต่งลวดลายคล้ายแบบยุโรปจนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ปัจจุบันตึกแถวสองข้างทางย่านบ้านเจ็กปรับปรุงเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านอินเตอร์เน็ต ร้านกินดื่ม และร้านอาหารนานาชาติ รวมทั้งแหล่งที่พักราคาย่อมเยา

ร้านค้าที่ยังคงเอกลักษณ์รูปแบบเดิมไว้ไม่เพิ่มแม้แต่กันสาด
เฮือนมรดกโลกเชียงม่วน
บ้านไม้เก่าแก่ที่สุดในหลวงพระบาง เป็นอาคารอนุรักษ์ขององค์การยูเนสโก กล่่าวกันว่า ดั้งเดิมเป็นของพระยาหมื่นนา ขุนนางในราชสำนักล้านช้าง ในสมัยหนึ่งขุนนางและคหบดีเมืองหลวงพระบางนิยมปลูกเรือนตึกแบบฝรั่ง ทำให้อาคารไม้แบบเดิมถูกรื้อไปมาก ที่เหลือสภาพสมบูรณ์อยู่ก็เฉพาะเรือนหลังนี้เท่านั้น นับเป็นสัญลักษณ์ของการเป็นมรดกโลกที่องค์การยูเนสโกได้อนุรักษ์ไว้เป็นแบบอย่างของบ้านลาวยุคโบราณ

บ้านผานม
เป็นหมู่บ้านชาวไทลื้อที่อพยพมาจากเมืองสิบสองปันนา ผู้หญิงชาวไทลื้อชำนาญในการทอผ้า ในอดีตบ้านผานมเป็นแหล่งทอผ้าถวายเจ้ามหาชีวิตและราชสำนักในปัจจุบันบ้านผานมได้รับการยกระดับจากทางการให้เป็น หมู่บ้านวัฒนธรรม ผ้าทอมือจากบ้านผานมเป็นผ้าทอ
ที่มีชื่อเสียงมาก มีการรวมกลุ่มตั้งเป็นศูนย์หัตถกรรมแสดงสินค้า มีการสาธิตการทอผ้าด้วยกี่กระตุกแบบดั้งเดิมและยังมีผ้าทอรูปแบบต่างๆ จำหน่ายให้นักท่องเที่ยว

ผลิตภัณฑ์ของชาวบ้านผานมที่นำมาจำหน่ายที่ศูนย์หัตถกรรมแสดงสินค้า

ดูลักษณะคนขายแล้วน่าจะเซ็งๆระหว่างรอนักท่องเที่ยว

จะขายดีก็ต้องทำสินค้าให้แตกต่างจากคนอื่น
ตลาดม้ง
เป็นตลาดของชาวม้งที่อาศัยอยู่บริเวณรอบหลวงพระบาง เป็นชนกลุ่มน้อย กลุ่มหนึ่งที่มีความสำคัญ และ มีบทบาทในประเทศลาวมาก ตลาดม้งเป็นตลาดที่ เป็นสินค้าจากชาวเขาเผ่าม้งของลาว เช่น ผ้าทอปักลวดลายต่างๆ เช่น ปลอกหมอน กระเป๋า ผ้าห่ม เสื้อผ้า และ เครื่องเงิน ที่มีราคาถูกและ ย่อมเยา

ส่วนมากจะเป็นของที่ระลึกและผ้าทอเสียส่วนใหญ่คล้ายๆม้งบ้านเรา
ร้านกาแฟประชานิยมเป็นร้านดั่งเดิม ที่เปิดขายตั้งแต่เช้าตรู่ และได้รับความนิยมจากคนไทยที่ไปเที่ยวหลวงพระบางเป็นพิเศษร้านอยู่หัวมุมถนน ติดริมโขง มีกาแฟ ปาท่องโก๋ ไข่ลวก และมีเฝอ ข้าวเปียก และโจ๊ก บริการ

ไม่ว่าใครไปก็ต้องมาร้านนี้สมกับชื่อร้านเลย

บรรยากาศที่นั่งทานหากเป็นต่างชาติต้องชอบมุมนี้ไกล้ชิดแม่น้ำโขง
เรามีรถที่ไว้บริการลูกค้าหลายแบบทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนลูกค้าในแต่ละกรุ๊ปเป็นรถสภาพพร้อมใช้งานพร้อมพนักงานขับถที่ชำนาญเส้นทาง

รถตู้ที่ใช้บริการลูกค้า 4- 6 ท่าน

รถตู้ที่ใช้บริการลูกค้า 8 - 10 ท่าน

รถบัสที่ใช้บริการลูกค้า 25 ที่นั่ง

รถบัสที่ใช้บริการลูกค้า 35 ที่นั่ง

รถบัสที่ใช้บริการลูกค้า 45 ที่นั่ง
เป็นทั้งเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของลาว อยู่ทางตอนกลางของประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงถ้าเราอยากจะไปสัมผัสลาวในแบบฉบับทันสมัยและเจริญที่สุดแต่ก็ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมเก่าแก่ ก็อย่ารอช้า เตรียมจัดกระเป๋ามาเที่ยวเวียงจันทน์กันได้เลย เพราะนอกจากมีวัดวาอารามที่แสดงถึงความเฟื่องฟูของศาสนาพุทธในลาวแล้ว ยังผสมผสานสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนในสไตล์ยุคอาณานิคมฝรั่งเศสได้อย่างลงตัว

ประตูชัยสัญญาลักษณ์เมืองเวียงจันทน์
วัดพระธาตุหลวง
สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเวียงจันทน์ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบลาว มีลักษณะเป็นสถูปเจดีย์สีทองอร่าม ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงสีทองเช่นกัน ชาวบ้านมีความเชื่อกันว่าพระธาตุหลวงมีการสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 3 อย่างไรก็ตามโครงสร้างปัจจุบันขององค์พระธาตุหลวงได้ถูกสร้างโดยสมเด็จพระเจ้าอภัยพุทธบวร ไชยเชษฐาธิราช ในปี ค.ศ. 1566 และมีได้มีการบูรณะโดยชาวฝรั่งเศส

บริเวณด้านหน้ากว้างมากทำให้ทำให้พระธาตุดูเด่นสวยงาม

บริเวณภายในบริเวณรอบด้านในเหมาะสำหรับเดินจงกลม

ประตูด้านหน้าทางเข้า
สัญลักษณ์สำคัญของเมืองเวียงจันทน์ ตั้งอยู่บริเวณถนนลานช้าง ก่อสร้างเมื่อราว ๆ ปี ค.ศ. 1957 เพื่อเป็นอนุสรณ์ระลึกถึงวีรชนผู้ร่วมรบในการประกาศเอกราชจากประเทศฝรั่งเศส โดยได้แรงบันดาลใจสถาปัตยกรรมจาก Arc de Triomphe ประตูชัยแห่งปารีส มีการตกแต่งด้วยรูปปั้นของกินรีและสัตว์ในตำนานตามความเชื่อของศาสนาพุทธ

บรรยากาศยามบ่ายนักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูปกันมาก

ด้านหลังมีน้ำพุทำให้รู้สึกเย็นสบาย

ที่พักหลบแสงแดดบริเวณรอบๆน้ำพุ
เป็นสถานที่ที่เคยประดิษฐานพระแก้วมรกต ปัจจุบันเหลือเพียงพระแท่นที่ประดิษฐาน หอพระแก้วดั้งเดิมนั้นสร้างโดยสมเด็จพระเจ้าอภัยพุทธบวร ไชยเชษฐาธิราช แต่ได้รับการบูรณะใหม่ดังที่เห็นในปัจจุบัน โดยมีลักษณะสถาปัตยกรรมผสมผสานแบบไทย-ลาว

บริเวณด้านหน้าทางเข้าหอพระแก้ว

ประตูแกะสลักสวยงาม

พระพุทธรูปโบราณที่บริเวณหน้าโบสถ์
อีกหนึ่งวัดที่น่าสนใจของเมืองเวียงจันทน์ ตั้งอยู่บนถนนเชษฐาธิราช สร้างมาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1563 เป็นวัดเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามเช่นกัน และยังเป็นที่ตั้งของศาลเสาหลักเมือง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองเวียงจันทน์ สิ่งที่น่าสนใจก็คือพระอุโบสถ ที่มีสถาปัตยกรรมไทย-ลาว สวยงามโอ่อ่า สามารถเข้าไปไหว้พระขอพรกันได้ทุกวัน

ตัวโบสถ์ไม่ไดยกพื้นสูงเหมือนของไทยเรา

เสาหลักเมืองภายในบริเวณโบสถ์

พระที่นั่งอยู่ในโบสถฺคอยให้พรกับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน
หนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเวียงจันทน์ เป็นเพียงวัดเดียวในเวียงจันทน์ที่ไม่ถูกทำลายลงในช่วงสงครามเมื่อปี พ.ศ.2372 ทั้งยังเป็นวัดที่เคยประดิษฐานพระแก้วมรกตอีกด้วย และจุดเด่นของวัดสีสะเกด นอกจากมีอุโบสถที่สวยงามแล้ว ยังมีระเบียงทางเดินรอบๆวัดทั้งสี่ด้าน

อาคารภายในบริเวณมีไม่มากเหมือนวัดไทยทำให้ดูเด่นสวยงาม
เมืองสวนพระ
พุทธสถานที่สวยงามและแปลกตาที่สุดในเวียงจันทน์ นั่นคือ สวนพระ นักท่องเที่ยวฝรั่งนิยมมาที่นี่กันมาก เพราะเป็นความสวยงามที่หาชมได้ยาก ทั้งยังน่าสนใจในแง่ของการสอนหลักธรรมผ่านรูปปั้นต่างๆ ซึ่งก็ล้วนแต่เป็นพระพุทธรูปที่หล่อซีเมนต์ตามความเชื่อทางศาสนาพุทธและฮินดู ไม่ว่าจะเป็นพระศิวะ พระนารายณ์ มนุษย์ พระเจ้า สัตว์ ปีศาจ เป็นต้น

รูปปั้นต่างๆภายในบริเวณซึ่งคล้ายๆที่หนองคาย
หอพิพิธภัณฑ์ แห่งชาติลาว
หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ก่อตั้งขึ้นค.ศ. 1925 โดยเริ่มแรกเป็นที่พำนักของผู้ว่าราชการฝรั่งเศส ในยุคอาณานิคมของฝรั่งเศส ต่อมาสหรัฐอเมริกาได้บริจาคเงินทุนเพื่อช่วยพัฒนาปรับปรุง ประการสำคัญภายในพิพิธภัณฑ์นี้มุ่งเน้นในการนำเสนอประวัติศาสตร์ประเทศลาวด้านการต่อสู้เพื่อเอกราชของชาวลาวจากนักล่าอาณานิคมต่างชาติรวมถึงกองกำลังจักรวรรดินิยม

อาคารหอพิพิธภัณฑ์ แห่งชาติลาว
ตลาดกลางคืนเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหญ่ อีกหนึ่งสถานที่ต้องแวะมา มีทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋า รองเท้า งานฝีมือพื้นเมือง ของฝากราคาย่อมเยา อาหารการกินที่นี่ก็ไม่น้อยหน้านะ มีให้เลือกตามทางเพียบ แถมยังจะได้เดินช้อป ชม ชิลล์ พร้อมทั้งเพลิดเพลินไปกับวิวแม่น้ำโขงตอนกลางคืนอีกด้วย

มีสินค้าที่ระลึกมากมายให้ได้เลือกซื้อ
เมืองสวรรค์แห่งธรรมชาติ เมืองท่องเที่ยวในแขวงเวียงจันทน์ ห่างจากเวียงจันทน์ ประมาณ 160 กิโลเมตร สภาพทางภูมิศาสตร์เป็นที่ราบระหว่างภูเขาหินปูน ป่าไม้สมบูรณ์ ได้ฉายาว่า เมืองกุ้ยหลินแห่งเมืองลาวมีกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย มาดูกันว่ามาวังเวียงแล้วห้ามพลาดอะไรบ้าง

เตรียมลงเรือล่องแม่น้ำซอง
แม่น้ำซองเป็นแม่น้ำที่ไม่ใหญ่โตและไม่ลึกน้ำใสสะอาดการนั่งเรือชมวิวสองฝั่งจึงเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย

น้ำไม่ลึกบรรยากาศสองฝั่งเป็นธรรมชาติที่ยังคงสภาพเดิมๆไม่มีความเจริญเข้ามาแทรก

คนขับเรือต้องชำนาญร่องน้ำไม่เช่นนั้นมีสิทธิเกยตื้นได้

นักท่องเที่ยวที่พายเรือล่องตามน้ำ เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว

เวลาพายก็ต้องคอยหลบหินที่โผล่ตามลำน้ำ เพราะน้ำตื้น

บางคนสบายๆโดยการนั่งห่วงยางล่องตามลำน้ำ
เป็นการเพิ่มอรรถรสของการทานอาหาร สนุกสนานพร้อมลงเล่นน้ำไกล้ๆบริเวณที่นั่ง

บรรยากาศกินดื่มเล่น ริมแม่น้ำซอง

พลาดไม่ได้เลยครับบรรยากาศแบบนี้

นักท่องเที่ยวที่มาสนุกสนานระหว่างการล่องน้ำซอง
เป็นกิจกรรมหนึ่งที่นักท่องเที่ยวเมื่อมาเยือนว้งเวียงแล้วต้องการชมวังเวียงแบบท๊อปวิว ก็ต้องกิจกรรมนี้เลย

เช้าตรู่ของการชมบรรยากาศเมืองโดยการนั่งบอลลูน
เป็นถ้ำขนาดใหญ่ ที่มีชื่อเสียงที่สุดในวังเวียง การเดินทางขึ้นไปที่ถ้ำจังนั้น จะต้องเดินขึ้นบันได 147 ขั้น เป็นทางลาดชัน ภายในถ้ำจะได้สัมผัสกับหินงอกหินย้อยที่สวยงาม และจุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำซอง กับทุ่งนาสีเขียวของเมืองวังเวียงได้

สะพานสีส้มสัญญาลักษณ์ของการเดินทางสู่ถ้ำจัง

ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกก่อนเดินทางขึ้นสู่ถ้ำ

ทางเดินภายในถ้ำ

เสมือนเป็นบัลลังค์นางพญาที่นักท่องเที่ยวต้องหยุดถ่ายรูป

จากด้านบนถ้ำมองลงมาธรรมชาติยังสมบูรณ์สองฝั่งแม่น้ำซอง
ถ้ำช้าง เป็นอีกถ้ำที่มีธรรมชาติที่สวยงาม และมีความน่าอัศจรรย์ที่หินงอกหินย้อย มีลักษณะเป็นรูปช้างอย่างชัดเจน ชาวบ้านจึงเรียกว่า ถ้ำช้าง อยู่ที่บ้านนาดาว เป็นถ้ำเล็กๆ ภายในมีพระพุทธรูป และรอยพระพุทธบาท เป็นสถานที่ที่ชาวบ้านในวังเวียงเคารพบูชา

หินย้อยรูปช้างสัญญาลักษณ์ของถ้ำ
เมื่อมาถึงวังเวียง แล้วพลาดไม่ได้ก็คือ บลู ลากูน สระน้ำสวยใสสีฟ้า เป็นสระน้ำที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถลงไปเล่นน้ำได้อย่างสบายใจ มุมไฮไลท์คือ ชิงช้าเชือกที่อยู่ด้านข้างของ บลู ลากูน ที่เราสามารถขึ้นไปนั่งถ่ายรูปสวยๆ

เมื้อมาถึงแล้วก็ต้องลงน้ำเล่นกันหน่อย น้ำใสน่าเล่นจริงๆครับ
ถ้ำน้ำ อยู่นอกตัวเมืองวังเวียงและเป็นที่เที่ยวที่นักท่องเที่ยวมักจะไปเล่นห่วงยาง Tubing โดยการนั่งบนห่วงยาง แล้วจับเชือกเข้าไปในถ้ำ เป็นอะไรที่แอดเวนเจอร์ของที่นี่อีกแห่งหนึ่ง

การผจญภัยที่น่าลอง หากเดินทางสู่วังเวียงแล้ว
ยามค่ำคืนร้านอาหาร บาร์ค่อนข้างคึกคักและเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศโดยเฉพาที่เรียกกันว่า ฝรั่ง

ถนนยามค่ำคืนนี้คงเปลี่ยนไปบ้างตามกาลเวลา

ของหวานตบท้าย โรตี
เป็นแขวงหนึ่งของประเทศลาว อยู่ทางตอนใต้สุดของประเทศ ติดชายแดนประเทศไทยและกัมพูชา มีเมืองปากเซเป็นเมืองหลักของแขวง และเป็นเมืองใหญ่
อันดับ 3 ของลาว และเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของลาวตอนใต้

ความงามยามเช้าจากโรงแรม Pond Arena Hotel ดอนโขง
ตลาดนัดดาวเรือง ภายใต้การบริงานของ เจ๊ดาวเรือง นักธุรกิจหญิงดีเด่นแห่ง สปป.ลาว เป็นตลาดที่ใหญ่ ย่านเขตการค้าที่สำคัญ ในเมืองปากเซ หรือเรียกอีกอย่างว่าศูนย์การค้าของลาวใต้ก็ได้ ทีมีสินค้าอุปโภค-บริโภคอย่างครบครัน ลักษณะอาคารเป็นอาคารชั้นเดียวขนาดใหญ่ แต่ไม่ได้ติดแอร์ ภายในอาคารมีสินค้ามากมายหลายประเภท อาทิ เสื้อผ้า ,เครื่องเงิน ของใช้ต่างๆ ฯลฯ ส่วนภายนอกอาคารจะเป็นสินค้าทางเกษตรกรรม ข้าวสารอาหารแห้ง เครื่องมือทางการเกษตร สินค้าประเภทพืชผัก ผลไม้จะวางขายตามทางเดินรอบอาคาร นอกจากนี้ยังมีโซน Food Court ให้ลูกค้าที่เลือกซื้อของมาแวะมานั่งพัก รับประทานอาหารอีกด้วย

เข้าสู่อาณาจักร์ของฝาก ของถูก จากตลาดดาวเรือง

มีให้เลือกทุกอย่างทั้งของกินของฝาก และทองคำ

เสื้อผาทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ รองเท้า มีให้เลือกและต่อรองได้
ปราสาทวัดพู เป็นโบราณสถานในประเทศลาว ซึ่งเป็นมรดกโลกแห่งที่สองของประเทศลาว เป็นโบสถ์พราหมณ์ที่สร้างถวายพระศิวะ ตั้งอยู่บนเนินเขาภู หรือเรียกกันว่าภูเก้า ห่างจากตัวเมืองเก่าจำปาศักดิ์ประมาณ 6 กิโลเมตร ลักษณะของปราสาทเป็นเทวสถานขอม คล้ายกับเขาพระวิหาร สร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 12 ในสมัยของพระเจ้ามเหนทรวรมัน โดยพระยากัมมะธา

ทางเดินเข้าสู่บริเวณมรดกโลกปราสาทหินวัดพู

ตัวปราสาทใหญ่ตรงทางขึ้นสู่วิหารด้านบนเขา

อีกมุมหนึ่งของปราสาท

ส่วนหนึ่งของเทวสถานตรงบันใดทางขึ้นวิหาร

ตัววิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูป
น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ในแขวนจำปาศักดิ์ สปป.ลาว ห่างจากเมืองปากเซ 150 กิโลเมตร โดยคำว่า คอน หมายถึง แก่งหรือเกาะ พะเพ็ง หมายถึง พระจันทร์วันเพ็ญรวมแล้วก็คือ เกาะพระจันทร์วันเพ็ญ ชื่อชวนฝันมากๆแต่ภาพที่เห็นตรงกันข้ามกับชื่อเลยด้วยกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก กระทบกับโขดหินขนาดใหญ่ ทำให้เกิดเสียงดังไปทั่วบริเวณ

ทางเดินเข้าสู่น้ำตก

ตัวน้ำตกซึ่งน้ำมีความแรงมากจนเป็นละอองน้ำทั่วบริเวณ

ด้านหน้าซึ่งมีความสวยงามเสียงน้ำไหลกระทบโขดหินดังสนั่น แต่ก็เพลินกับเสียงธรรมชาติ
เป็นน้ำตกสูงใหญ่ มีสายน้ำ 2 สาย ไหลลงมาจากหน้าผาสูงชันสู่กลางหุบเขา โดยสายน้ำดังกล่าวไหลมาจากแม่น้ำสองสาย คือ Champi River และ Pak Koot River น้ำจำนวนมากมายจะไหลผ่านป่าเขาแล้วไหลดิ่งลงหน้าผาสูงชัน 90 องศา สู่แอ่งน้ำกลางหุบเขาเบื้องล่าง ด้วยความสูงกว่า 120 เมตร

ระเบียงชมน้ำตกฝั่งตรงกันข้าม

ภาพสายน้ำสองสายไหลลงสู่แอ่งน้ำ
น้ำตกหลี่ผี (ตาดสมพะมิด) น้ำตกหลี่ผีแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตดอนคอน ช่วงที่เหมาะในการเที่ยวชมคือเดือน ตุลาคม – พฤศจิกายน เพราะเราจะเห็นสายน้ำจำนวนมาก ในแก่งหลี่ผีที่ไหลผ่านเนินหินโขดหินลงมาด้วยกำลังแรงแตกเป็นละอองสีขาวไปทั่วแก่งดูสวยงามตื่นตา

ก่อนจะได้ชมน้ำตกต้องลงเรือไปก่อน

ระหว่างการเดินทางจะเห็นเรือนักท่องเที่ยวทั้งกลับมาและกำลังเดินทางไปเช่นกัน

เรือจะสิ้นสุดที่บ้านดอนเดช จากนั้นนั่งรถหมูต่ออีกช่วงหนึ่ง

สักพักไม่นานก็มาถึงบริเวณน้ำตก

จริงๆแล้วลักษณะคล้ายๆคอนพะเพ็งเหมือนกัน

แต่จะมีซอกโขดหินให้น้ำไหลดูสวยงาม
คำว่า เยือง แปลว่า เลียงผา รวมกัน ความหมายชื่อ ก็คือ น้ำตกเลียงผา เป็น น้ำตกในลาว ที่สวยงาม อีกที่หนึ่ง ซึ่งไม่ห่างจาก น้ำตกตาดฟาน เป็น น้ำตกขนาดใหญ่ ที่มีน้ำไหลแรง จนเกิด ละอองน้ำตก เป็น สีขาว ปลิวไสว ไกล ไปทั่ว สารทิศ อย่างสวยงาม ลักษณะ ตาดเยื้อง จะแตก ต่าง จาก ตาดฟาน ตรง ที่ สามารถ เข้า ชมและสัมผัส ไกล้ซิด กับ น้ำตก ได้
น้ำตกตาดผาส้วม
น้ำตกที่สวยงามแห่งหนึ่งของแขวงจำปาสัก เป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากที่สูง โดยตัวน้ำตกมีลักษณะโค้งเป็นรูปครึ่งวงกลม คำว่า ส้วม ของลาว หมายถึง ห้องนอนของเจ้าบ่าว-เจ้าสาว หรือห้องหอ ซึ่งตรงข้ามกับคำว่า ส้วมของไทย น้ำตกแห่งนี้ มีน้ำไหลตลอดทั้งปี และมีธรรมชาติป่าไม้ให้ร่มเงา นำมาซึ่งความชุมชื้นและร่มเย็น ให้กับนักท่องเที่ยวได้สัมผัสไอน้ำอันเย็นฉ่ำ พร้อมชมความงามของน้ำตก ท่ามกลางแท่งหินยักษ์ เหมือนกับถูกนำมาเรียงร้อยตกแต่งไว้ เป็นห้องนอนสวยงามยิ่งใหญ่อลังการ