บริษัทฯ จึงขอหยุดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป
ทัวร์พม่า ย่างกุ้ง หงสาวดี พระธาตุอินทร์แขวน 3 วัน 2 คืน
พม่าหรือเมียนม่า...ประเทศเพื่อนบ้านอีกประเทศหนึ่งที่มมีเขตแดนติดต่อทางภาคตะวันตกของไทยเรา มีโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจและควรศึกษาจำนวนมาก แกลเลอรี่ ทริปการท่องเที่ยว พม่า ย่างกุ้ง พระธาตุอินแขวน 3 วัน 2 คืน นี้จะทำให้ทุกท่านมองเห็นภาพก่อนที่จะเดินทางท่องเที่ยว...ซึ่ง AtSiamTour พร้อมที่จะพาทุกท่านไปเยือน และเป็นสัญญาลักษณ์ที่ทุกท่านรู้จักดีถึงจะยังไม่เคยเดินทางไปก็ตาม พระธาตุชเวดากอง



การเดินทางในวันที่หนึ่ง...พบกันที่เค้าเตอร์ของสายการบิน...เหิรฟ้าสู่สนามบินสนามบินมิงกาลาดง กรุงย่างกุ้ง...จากสนามบินเดินทางต่อยังเมืองหงสาวดี ให้ท่านได้ไหว้พระทำบุญไหว้พระเป็นแห่งแรกที่ พระเจดีย์ไจ๊ก์ปุ้น ซึ่งเป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมทึบตันล้อมรอบด้วยพระพุทธรูปปางมารวิชัย 4 องค์ ..



หลังจากทำบุญเสร็จ ก็จะเป็นเวลาทานอาหารกลางวัน บรรยากาศห้องอาหารโล่งโปร่ง อากาศไม่ร้อน รายการอาหารน่าทานและรสชาดดีทุกอย่าง...เป็นคำชมจากลูกค้ากรุ๊ปนี้



หลังอาหารกลางวัน ..เดินทางต่อช่วงนี้ยังเป็นรถบัสอยู่จนกระทั่งถึงคิมปูนแคมป์ เชิงเขาไจ๊ก์ทีโย หยุดพักเพื่อเปลี่ยนรถเป็นรถบรรทุกหกล้อซึ่งตามกฎของที่พม่าต้องเป็นรถ 6 ล้อลักษณะแบบรถคอกหมู เท่านั้น แต่ก็เป็นการเดินทางที่สนุกอีกแบบหนึ่ง เดี๋ยวนี้ไม้พาดรองนั่งมีเบาะหุ้มทำให้ผ่อนคลายความแข็งกระด้างได้มาก ..เมื่อเปลี่ยนรถเรียบร้อยก็ออกเดินทางสู่ พระธาตุอินทร์แขวน



ใช้เวลาเดินทางจากจุดเปลี่ยนรถไปที่จะทำการนั่งเสลี่ยง อีกประมาณ 40-50 นาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่ระยะเวลาการสับหลีกของรถที่ลงมากับรถที่ขึ้นไป เป็นช่วงที่รถต้องวิ่งแบบวันเวย์...เมื่อเดินทางถึงจุดเปลี่ยนนั่งเสลี่ยงและการนั่งเสลี่ยงนั้นขึ้นอยู่ที่ลูกค้า ว่าจะนั่งเสลี่ยงหรือนั่งรถขึ้นซึ่งการนั่งเสลี่ยงต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง ถ้าไม่นั่งเสลี่ยงสามารถนั่งรถขึ้นถึง ด้านบนที่จอดรถได้เลย



เมื่อเดินทางขึ้นถึงด้านบนเขา...เข้าทำการเช็คอินห้องพักก่อนซึ่งจะใช้เวลาไม่นาน เมื่อทุกท่านทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยนำเดินทางนมัสการ พระธาตุอินทร์แขวน แต่ก่อนถึวตัวองค์พระธาตุ ด้านซ้ายมือตรงทางขึ้นบันใดมีอาคารเล็กๆด้านในมีรูปปั้นนางชเวนันจิน นอนตายและเป็นผีนัตเฝ้าพระธาตุ ผู้คนที่ขึ้นไปไหว้พระธาตุ นับถือมาก ส่วนด้านขวามือเป็นรูปพระพุทธเจ้าเสด็จเหาะมาที่เเขาไจ้ติโย โดยมีกษัตริย์สิทธะธรรม ทีหะยารสาร ผู้สร้างพระเจดีย์พร้อมบุคคลที่เกี่ยวข้อง นั่งเข้าแถวพนมมือวันทาพระพุทธเจ้า


เจะีย์ไจก์ถิโย หรือพระธาตุอินทร์แขวน...เป็นเจดีย์บนก้อนหินขนาดใหญ่ซึ่งตั้งหมิ่นเหม่อยู่บนชะง่อนผาอย่างน่าประหลาดใจ และได้รับการนับถืออย่างแพร่หลาย ซึ่งไม่เพียงแต่ชาวมอญ พม่าเท่านั้น หากยังรวมถึงชาวล้านนาและบรรดาชนเผ่าต่างๆที่อยู่รายรอบอีกด้วบ จึงเป็นที่ยกย่องว่าเป็นปูชนียสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของพม่า




หลังจากได้บูชาพระธาตุเรียบร้อยแล้วเดินกลับยังที่พักเพื่อทานอาหารเย็น ...หลังอาหารเย็นจะเป็นช่วงที่ตามอัธยาศัยหลายๆท่านกลับขึ้นไปนั่งสวดมนต์ นั่งภวนา จะใช้เวลาเท่าใดนั้นขึ้นอยู่ที่ความต้องการแต่ละท่านหรือจะตลอดทั้งคืนก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันนั้นด้วย ...ลานนั่งสมาธิ จะมีอาคารอยู่ด้านหน้าของพระธาตุ


เช้าวันที่สอง...หลายๆท่านจะ ตื่นแต่เช้าเพื่อไปทำการสวดมนต์ แล้วกลับลงมาทานอาหารเช้าก่อนทำการเช็คเอ้าเดินทางกลับลงมาจากเขา หรือจะตักบาตรที่หน้าโรงแรมที่พักก็ได้ ซึ่งก็มีให้ทำบุญทั้งพระและฤาษี


เมื่อได้เวลาเดินทางลงซึ่งก็จะมีทั้งรถ และเสลี่ยง..ซึ่งทั้งสองจะมาพบกันเพิ่อขึ้นรถคอกหมูเดินทางต่อยังจุดจอดรถบัส


เดินทางต่อจากจุดจอดรถบัส ไกด์นำไปไหว้พระที่วัด...(จำชื่อไม่ได้ ) มีพระพุทธรูปสวยทั้งนั่งสมาธิและพระนอน ก่อนที่จะข้ามแม่น้ำสะโตงเพื่อไปนมัสการ พระธาตุมุเตา



เดินทางต่อยัง พระธาตุมุเตา หรือเจดีย์ชเวมอดอ...คือมหาเจดีย์สำคัญประจำเทืองหงสาวดี อดีตราชธานีของมอญ ถึงแม้ในยุคที่เมืองหงสาวดีกลายมาเป็นราชธานีของพม่าก็ตาม เจดีย์แห่งนี้ยังเป็นหนึ่งในปูชนียสถานสำคัญสูงสุดของทั้งชาวมอญและพม่าครั้งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ควบคู่กับเจดีย์ชเวดากอง




ก่อนอาหารกลางวัน...เดินทางแวะชม พระราชวังบุเรงนอง ซึ่งเป็นองค์จำลองสร้างขึ้นใหม่ในลักษณะเหมือนของเดิม หลังจากพระราชวังเดิมถุกเผาทำลายในปี คศ. 1599 และรัฐบาลพม่าได้บูรณะและสร้างขึ้นมาใหม่ในปี คศ. 1990



หลังอาหารเดินทางต่อยัง ย่างกุ้ง ...เดินทางถึงปางช้างเผือก ซึ่งที่ปางนี้มีช้างเผือกอยู่ 3 เชือก โดยตำราคชลักษณ์ไทยว่าช้างเผือกจะมีลักษณะดังนี้ มีเจ็ดสี คือขาว เหลือง เขียว แดง ดำ ม่วง เมฆ และช้างมงคลประกอบด้วยลักษณะ 7 ประการ คือ ตาขาว เพดานขาว เล็บขาว ขนขาว พื้นหนังขาว ขนหางขาว อัณฑโกสขาว


เดินทางต่อ ไหว้พระที่ วัดเจ้าตอจีหรือวัดพระหินอ่อน ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่แกะสลักจากหินอ่อนสสีขาวก้อนเดียวที่นำมาจากเมืองสกาย องค์พระจะถูกครอบไว้ด้วยกระจก เพื่อควบคุมอุณหภูมิไม่ให้ร้อนจนแตกร้าว แกะสลักเสร็จเมื่อปีคศ. 2000


เดินทางต่อ ไหว้พระที่วัดพระนอนเจ้าทัดจี หรือพระตาหวาน เหตุที่เรียกว่าวพระตาหวาน เนื่องมาจากทางวัดได้ให้ช่างระบายสีองค์พระใหม่ตลอดเวลาโดยเฉพาะที่พระ พักตร์ สีขาว แต้มสีแดงที่พระโอษฐ์ และระบายสีฟ้าที่เปลือกพระเนตรทำให้มีพระเนตรสวยงาม จึงถูกเรียกว่าพระตาหวาน



เดินทางต่อยัง พระธาตุชเวดากอง นี่คือเจดีย์ที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ของพมม่า ส่วนยอดเจดีย์ประดับด้วยเพชร 72 กะรัต ทองคำกว่า 1,100 กิโลกรัม ความหมายของพระธาตุ ชเว แปลว่าทอง ส่วนดากองหรือตะเกิง เป็นชื่อเดิมเมืองย่างกุ้ง โดยรวมหมายถึง เจดีย์ทองคำแห่งเมืองดากอง...เวลาสมควรทานอาหารเย็นที่ภัตาคารการาเวก ก่อนที่จะพักผ่อนตามอัธยาศัย




วันที่สามของการเดินทาง...หลังอาหารเช้าเช็คเอ้าโรงแรมที่พัก...เดินทางสู่ เจดีย์โบตะทาว เจดีย์สูงประมาณ 40 เมตร ความสำคัญของเจดีย์นี้คือสถานที่ๆตปุสสะและภัลลิกะนำพระเกศธตุ 8 เส้นมาขึ้นฝั่งและได้สร้างเจดีย์ขึ้นเป็นอนุสรณ์พร้อมแบ่งพระเกศธาตุประดิษฐานไว้ 1 เส้นก่อนที่จะนำพระเกศธาตุที่เหลือไปยังเจดีย์ชเวดากอง...ส่วนที่วิหารด้านขวามีพระนันอู พระพุทธรูปทองคำที่งามล้ำค่าปางมารวิชัย


สุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือ นัตโบโบยี หรือเทพทันใจ ทุกคนที่มาเที่ยวพม่ามีความตั้งใจมาไหว้อธิษฐานขอพรให้สมหวัง...ในสถานที่ไกล้เคียงด้านตรงกันข้ามยังมี อะมาดอว์เมียะ หรือเทพกระซิบ เพราะเมื่อทำการขอพรต้องกระซิบเบาๆที่ข้างหู โดยห้ามมิให้คนอื่นได้ยินเป็นอันขาด...หากมีเวลาเหลือนำท่านอิสระช้อปปิ้งที่ตลาดโบโจ๊ก ก่อนที่จะเดินทางสู่สนามบินอำลาย่างกุ้งสู่กรุงเทพฯโดยสวัสดิ์ภาพ..




