เนื่องด้วยสถานการณ์ Covid-19 ส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
บริษัทฯ จึงขอหยุดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป
บริษัทฯ จึงขอหยุดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป
พาทัวร์ภูฏาน 6 วัน 5 คืน
- วันที่ 1 เมื่อเดินทางถึงสนามบินพาโร นำขึ้นจุดชมวิวสนามบินและเมืองพาโร ก่อนที่จะเดินทางสู่เมืองหลวงทิมพู
- วันที่ 1-2-3 พักที่ทิมพู 2 คืน ท่องเที่ยว ก่อนเดินทางสู่พูนาคา
- วันที่ 3-4 พักที่พูนาคา 1 คืน ท่องเที่ยว แล้วเดินทางกลับสู่พาโร
- วันที่ 4-5-6 พักที่พาโร 2 คืน ท่องเที่ยว
- วันที่ 6 เนื่องจากขากลับเป็นเที่ยวบินเช้า 10.35 น. หลังจากอาหารเช้าเรียบร้อยต้องเดินทางสู่สนามบิน
สถานที่ท่องเที่ยวในภูฎาน
- Paro International Airport - สนามบินนานาชาติพาโร
- Tamchog Lhakhang Temple (Paro) - วัดตัมชูลาคัง
- Chuzom - ชูซอม
- ร้านขายพืชผักผลไม้ข้างทาง
- Thimphu - กรุงทิมพูเมืองหลวงประเทศภูฏาน
- National Memorial Chorten - อนุสรณ์สถานแห่งชาติ
- Buddha Dordenma - องค์หลวงพ่อสัจธรรมติ
- National Institute for Zorig Chusum - สถาบันศิลปะและหัตถกรรมแห่งชาติ
- National Library of Bhutan - หอสมุดแห่งชาติภูฎาน
- Motithang Takin Preserve - สถานอนุรักษ์ทาคิน
- สถาบันการศึกษาสำหรับแม่ชี
- โรงเรียนสำหรับสามเณร
- A Living Museum - การแสดงทางวัฒนธรรม
- Tashichho Dzong - ตาชิโซซอง หรือ ทิมพูซอง
- Druk Wangyal Khangzang Stupa (Dochula Pass) - จุดชมวิวโดชูล่า
- Mo Chhu River - ล่องแพยาง แม่น้ำโมชู พูนาคา
- Chime Lhakhang - วัดชิมิ
- Chime Village - หมู่บ้านชิมิ
- Punakha Dzong - พูนาคาซอง
- Punakha Suspension Bridge - สะพานแขวนพูนาคา
- สภาพเส้นทางระหว่างพูนาคา - ทิมพู - พาโร
- Paro Dzong - พาโรซอง หรือ Rinpung Dzong - รินปุงซอง
- Paro - เมืองพาโร
- Taktsang Monastery - วัดทักซัง
Paro International Airport - สนามบินนานาชาติพาโร
ท่าอากาศยานพาโร เป็นท่าอากาศยานนานาชาติเพียงแห่งเดียวของประเทศภูฏาน ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำพาโรชชู ลึกเข้าไปในหุบเขาราว 6 กิโลเมตร และล้อมรอบไปด้วยเขาน้อยใหญ่ จึงถูกจัดให้อยู่เป็นสนามบินที่มีความท้าทายมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยข้อจำกัดทางด้านธรรมชาติป่าเขา ทำให้สนามบินแห่งนี้เปิดให้เครื่องบิน ขึ้น-ลง เฉพาะตอนกลางวันเท่านั้น
Tamchog Lhakhang Temple (Paro) - วัดตัมชูลาคัง
เป็นวัดที่เก่าแก่อายุกว่า 9000 ปี ตั้งอยู่บนเนินเขาระหว่างพาโร - ทิมพู สร้างโดยนักบวชชาวธิเบตนาม Thangtong Gyalpo เป็นพระที่มีชื่อเสียงองค์หนึ่ง ซึ่งมีความสามารถหลายด้านเช่น Yogi, Physician, Blacksmith, Architect and a pioneering civil engineer วัดนี้สร้างขึ้นเมื่อปี คศ. 14 โดยการสร้าง suspention bridge เพื่อข้ามแม่น้ำพาโรไปยังวัด ซึ่งสะพานแห่งนี้เป็น 1 ใน 8 สะพานเหล็กของภูฏาน
Chuzom - ชูซอม
เป็นจุดที่แม่น้ำพาโรและแม่น้ำทิมพูไหลมาบรรจบกัน ตรงจุดตัดได้มีการสร้างสถูป หรือเจดีย์ทั้งหมด 3 เจดีย์โดยมีรูปแบบต่างกันตามวัฒนธรรมของธิเบต เนปาล และ ภูฎาน จุดที่แม่น้ำทั้งสองบรรจบกันนั้นอยู่ห่างจากพาโร 24 กม. และทิมพู 31 กม.
ระหว่างการเดินทางข้างทางจะมีชาวบ้านมาขายสินค้าทางการเกษตรซึ่งจะเป็นชนิดปลอดสารพิษ ตามที่คนขายและไกด์แจ้ง
กรุงทิมพู มีชื่อเป็นทางการในภูฏานว่า ตาชิโชซอง เป็นเมืองหลวงของภูฏานตั้งแต่
พ.ศ.2504 เริ่มแรกเป็นเพียงเมืองเล็กๆ เมื่อเป็นเมืองหลวงจึงมีประชากรมากขึ้นเมืองทิมพู
ตั้งอยู่ทางตะวันตกของแม่น้ำวัง เป็นเมืองหลวงแห่งเดียวในโลกที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจร ใช้
ตำรวจจราจรโบกมือให้สัญญาณเท่านั้น
เป็นเจดีย์ ที่ตั้งอยู่กลางใจเมืองทิมพู สร้างขึ้นเมื่อปี คศ. 1974 เพื่อเป็นเกียรติแด่กษัตริย์องค์ที่ 3 ของประเทศภูฏาน His Majesty Jigme Dorji Wqa ngchuck ซึ่งครองราชย์ระหว่างปี คศ. 1928 - 1972 และยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศอินเดีย
เป็นองค์พระพุทธรูปที่ตั้งอยู่บนเขาสามารถมองเห็นเมืองทิมพูได้ทั้งเมือง องค์หลวงพ่อสัจธรรมนั้นมีความสูงถึง 51.5 เมตร สร้างเสร็จในปี 2015 และภายในองค์พระพุทธรูปขนาดใหญ่ยังบรรจุพระพุทธรูปองค์เล็กภายใต้ฐานถึง 125,000 องค์
การสร้างองค์หลวงพ่อสัจธรรมนั้นมีความเชื่อมาจากคำทำนายของโยคีในคริสต์ศตวรรษที่ 20 นามว่า Sonam Zangpo ว่าจะมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ในภูฏานแห่งนี้ และพระพุทธรูปองค์นั้นจะประทานพรให้มีแต่สันติสุขและความสุขแด่คนทั่วโลก ลงทุนก่อสร้างโดยคนสิงค์โปร์มูลค่าก่อสร้างเบื้องต้น 100 ล้านดอลล่าร์
โรงเรียนงานฝีมือและงานศิลปะในท้องถิ่นนี้เริ่มตั้งแต่การแกะสลักไม้ไปจนถึงการทำสีเงินการเย็บปักการเย็บการทอผ้า สถาบันแห่งชาติของศิลปะ Zorig Chusum นี้ช่วยให้ภูฏานรักษาศิลปะแบบดั้งเดิมไว้ นักเรียนที่นี่จะได้รับการสอนวิชาศิลปะ 13 ประเภท แกะสลักไม้, ทำหน้ากาก, ทอ, ปัก, การสร้างแบบจำลองดินและประติมากรรม ในขณะการเยี่ยมชมนักท่องเที่ยวสามารถสอบถามนักเรียนหรืออาจารย์ผู้สอนเกี่ยวกับงานฝีมือ และ ยังมีร้านค้าเล็ก ให้ซื้อสินค้าที่ระลึก
ตั้งอยู่ที่ย่านคาวาจังซา เมืองทิมพู สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1967 โดยได้รับการอุปถัมภ์จากพระราชินีอาชิ พุนโช โชเด็น แต่เดิมที หนังสือถูกเก็บรวบรวมไว้ที่ ตาชิโชซอง แต่เมื่อมีหนังสือมากขึ้นเรื่อยๆ จึงย้ายไปเก็บไว้ที่อาคารแห่งหนึ่งในเขตชันกังคา และต่อมาได้สร้างหอสมุดที่เขตคาวาจังซาขึ้น ซึ่งตั้งให้เป็นหอสมุดแห่งชาติจนถึงปัจจุบัน ที่หอสมุดแห่งชาตินี้เก็บรักษาหนังสือ วรรณคดีโบราณ หนังสือสำคัญและหนังสือหายาก จดหมายเหตุเก่าแก่ ภาพถ่ายกว่า 7,000 ภาพ คัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา รวมทั้งพระไตรปิฏกอายุนับร้อยปี
ตั้งอยู่ที่เมืองทิมพู เป็นเหมือนสวนสัตว์เล็กๆ มีตัวทาคินซึ่งเป็นสัตว์ประจำชาติของภูฏาน และยังมีสัตว์พื้นเมืองอื่นๆ แต่เดิมเป็นสวนสัตว์ขนาดเล็ก ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นสถานอนุรักษ์สัตว์ เพื่อป้องกันสัตว์จากการถูกไล่ล่า มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ โดยปล่อยให้สัตว์อยู่อย่างอิสระตามธรรมชาติ
ลักษณะจะเหมือนโรงเรียนวัดของเราสมัยก่อนเมื่อลูกผู้หญิงโตขึ้น พ่อแม่ที่ไม่ค่อยมีเงินก็จะส่งลูกมาบวชและเรียนในที่แห่งนี้ เมื่อจบแล้วก็จะเข้าเรียนต่อในเมืองทิมพูจนจบระดับปริญญา
เช่นเดียวกันกับโรงเรียนแมีชีแต่มีจำนวนมากกว่า ที่นี่มีนักเรียนกว่า 1 พัน ซึ่งคณะที่ไปเยี่ยมครั้งนี้นำหนังสือเกี่ยวกับคำสอนของพุทธศานา และบริจาคเงินช่วยเหลือ ซึ่งยังต้องการอีกมากในการดำเนินการ รวมทั้งยารักษาโรคด้วย
เป็นสถานที่แสดงทางวัฒนธรรมของภูฏาน ซึ่งมีตั้งแต่ เต้นรำ ความเชื่อ การเก็บรักษาอาหาร และอืนๆ หากเป็นทางด้านกีฬาจะมีสถานที่ไว้ซ้อมยิงธนู
มหาปราการแห่งศาสนาและวิหารหลวง ศูนย์การปกครองและสัญญาลักษณ์เมืองทิมพู เป็นที่ทำการของรัฐบาล คณะกรรมการบริหารปกครองเมืองทิมพู ซึ่งประกอบด้วยคณะสงฆ์ และข้าราชการระดับสูง ภายในซองมีกลุ่มอาคารที่แยกออกเป็นเขตสังฆาวาสและเขตฆราวาส เป็นสถานที่จัดกิจกรรมสำคัญทางศาสนา
อยู่ระหว่างเมืองทิมพู - พูนาคา เป็นการสร้างเจดีย์ขนาดเล็กจำนวน 108 เจดีย์ ไว้บนสันเขา หรือเนินเตี้ยๆ เรียกว่า สถูปแห่งชัยชนะ ที่นี่เป็นอนุสรณ์รำลึกถึงทหารที่เสียชีวิตในสงครามระหว่างภูฏานกับกลุ่มกบฏอินเดียเมื่อปี 2003 สร้างขึ้นโดยเชื่อว่าจะช่วยปกป้องคุ้มครองผู้ที่เดินทางผ่านไปมาให้ปลอดภัย รอบๆ บริเวณจุดชมวิว ประดับด้วยธงมนต์หลากสีเพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งป่าเขาให้ปัดเป่าความชั่วร้าย ที่นี่ยังเป็นจุดพักสำหรับผู้เดินทางไปเมืองพูนาคา หรือเมืองวังดี โดยมีร้านคาเฟ่บริการ อาหาร และเครื่องดื่ม
ทริปที่อากาศเป็นใจไม่ร้อนและคลื่นไมโหด สนุกสนานสำหรับผู้ี่สูงวัยเพราะมีคลื่นดักอยู่ 3 โค้งเท่านั้น ใช้เวลาประมาณ 1 ชั้วโมงในการล่อง
วัดชิมิ อยู่ที่เมืองพูนาคา ถูกค้นพบในปี 1499 คนภูฏานเชื่อว่าหากไม่ประสบความสำเร็จเรื่องคู่ครอง จะต้องมาแสวงบุญที่นี่ วัดแห่งนี้ยังมีความศักดิ์สิทธิ์เรื่องการมาขอพรให้ตั้งครรภ์มีลูกด้วย
วัดชิมิตั้งอยู่บนเนินเขา สร้างเพื่อถวายแด่ท่านดรุกปา คิลเลย์ ตามตำนานของภูฏานเล่าว่า ท่านดรุกปา คิลเลย์ ไล่ล่าอสูรมาจนถึงเมืองพูนาคาและเมืองวังดี อสูรตนนั้นได้แปลงกลายเป็นสุนัข ท่านดรุกปา คิลเลย์ปราบอสูรตนนั้นและเผาบนพื้นดินบนเนินแห่งนี้ แล้วท่านก็ได้ทำนายว่า ในอนาคตจะมีการสร้างวัดขึ้นที่นี่ จึงเป็นที่มาของชื่อวัด ชิมิ แปลว่า ไม่มีสุนัข
เป็นหมู่บ้านที่ตั้งเรียงรายก่อนถึงทางขึ้นวัด ชาวบ้านมีอาชีพเกี่ยวกับหัตถกรรม คล้ายๆชาวเขาบ้านเรา การจะซื้อสินค้าโดยเฉพาะภาพวาดบางอย่าง (ของเก่า) ห้ามนำออก ต้องขอใบเสร็จ เพื่อความถูกต้องของที่มา
ป้อมปราการประจำเมืองพูนาคา ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำโพและแม่น้ำโม สร้างในปี ค.ศ.1637 โดยท่านซับดรุง งาวัง นัมเกล เคยเป็นเมืองหลวงของภูฏานนานถึง 300 ปี ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการบริหารปกครองเขตพูนาคา องค์กรสงฆ์ส่วนกลางจะย้ายมาที่นี่นาน 6 เดือนเต็มในฤดูหนาว เนื่องจากพูนาคาซองอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,350 เมตร ต่ำกว่าเมืองทิมพูที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,400 เมตร จึงมีภูมิอากาศอบอุ่นกว่า
สะพานแขวนพูนาคา เป็นสะพานแขวนที่ยาวเป็นที่ 2 ของสะพานแขวนที่มีในภูฏาน มีความยาวประมาณ 160-180 เมตร เป็นสะพานที่สร้างด้วยวิทยาการสมัยใหม่ มีความปลอดภัย มีทิวทัศน์ที่สวยงาม และตื่นเต้นระหว่างการเดินข้าม จะตื่นเต้นอย่างไรต้องไปและเดินข้ามด้วยตัวเองสักครั้ง
สภาพเส้นทางระหว่างพูนาคา - ทิมพู - พาโร
สภาพเส้นทางจะเป็นถนนแอสฟัลต์ 2 ช่องจราจร รถที่สัญจรส่วนใหญ่จะเป็นรถที่บริการนักท่องเที่ยว และรถโดยสาร
อยู่ที่เมืองพาโรซึ่งเป็นเมืองแห่งแรกที่คุณมาถึงเมื่อมาเที่ยวภูฏาน ทันที่ที่ก้าวลงจากเครื่องบิน คุณจะสามารถมองเห็นพาโรซองตั้งสง่าอยู่บนเนินเขา รินปุงซอง แปลว่าป้อมอัญมณี พาโรซองได้ชื่อว่าเป็นซองที่มีรูปทรงสวยที่สุดแห่งหนึ่งของภูฏาน ข้างนอกซองเป็นลานประลองการยิงธนู ลานอเนกประสงค์เป็นที่จัดการแสดงระบำหน้ากากเซชูเป็นประจำทุกปี
ถ้าหากต้องการท่องเที่ยวภูฏาน การเดินทางจะเริ่มต้นและจบที่ เมืองพาโร ทั้งนี้เพราะว่า พาโร เป็นเมืองเดียวที่มีสนามบิน หุบเขาเมืองพาโร นับได้ว่าเป็นหุบเขาที่มีความสวยงามแห่งหนึ่งของประเทศ และเป็นเมืองหลวงเก่า สิ่งสำคัญเป็นแหล่งช้อบปิ้งสินค้าของนักท่องเที่ยวก่อนที่จะกลับ
วัดศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของภูฏาน เป็นสถานที่แสวงบุญที่ชาวภูฏานเลื่อมใสศรัทธามากที่สุดแห่งหนึ่งในเขตหิมาลัย แม้แต่ลามะชั้นสูงและชาวทิเบตก็ยังเดินทางข้ามเขาเพื่อมาสักการะอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต วัดทักซังเรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของการเที่ยวภูฏาน