บริษัทฯ จึงขอหยุดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป
คู่มือเที่ยว อัมพวา ฉบับสมบูรณ์
กลับมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวกันอีกครั้ง ใครที่กำลังคิดว่าเสาร์-อาทิตยน์นี้จะไปเที่ยวไหนดี แหล่งท่องเที่ยวที่ใกล้ๆ แบบไปเช้าเย็นกลับได้ ของกินเยอะๆ มีตลาดน้ำด้วย พอจะทราบกันรึยังคะว่าครั้งนี้เราจะพาไปเที่ยวกันที่ไหน ไม่ต้องเสียเวลาทายค่ะ ที่ที่เราจะพาไปวันนี้ก็คือ "อัมพวา" แหล่งท่องเที่ยวที่โด่งดังทั้งชาวไทยและต่างชาติ ด้วยวิถีชีวิตริมน้ำของชาวอัมพวา ตลาดน้ำยามเย็น อาหารและขนมอร่อยๆ แถมยังใกล้กรุงเทพเพียงแค่อึดใจเดียว พร้อมกันกันแล้วใช่มั๊ยคะไปเที่ยวอัมพวากันเลย

มีอะไรน่าสนใจบ้าง

"อัมพวา" สถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพ อยู่ในเขตสมุทรสาคร หรือลำน้ำแม่กลอง มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น วัด พิพิธภัณฑ์ ตลาดน้ำยามเย็น อัมพวาเป็นสถานที่ที่เราจะได้สมัมผัสกับวิถีชีวิตริมน้ำของชาวบ้านอย่างแท้จริง
- รถยนตร์ส่วนตัว
ให้ใช้เส้นทางพระราม 2 ไปทางมหาชัย เข้าทางแยกต่างระดับที่มุ่งหน้าสู่ตัวเมืองสมุทรสาคร ขับข้ามสะพานสูง เลี้ยวซ้ายเข้าวัดอัมพวัน และจอดรถที่วัด หรือไปจอดตรงหน้าที่ว่าการอำเภออัมพวาก็ได้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเศษๆ เท่านั้น
- รถตู้
เป็นอีกช่องทางที่สะดวก วินรถตู้ที่จะไปอัมพวา จอดอยู่ที่ข้างๆ ห้างเซ็นจูรี่ อนุเสาวรีย์ (วินใหญ่ๆ มีรถตู้ไปหลายจังหวัด) รถออกตั้งแต่ 7 โมงเช้า เที่ยวสุดท้ายที่ 2 ทุ่ม ค่าโดยสารประมาณ 80 บาทต่อคน
- รถทัวร์
ให้ไปขึ้นรถที่สายใต้ใหม่ รถออกตั้งแต่ ตี 5 ไปจนถึง 1 ทุ่ม มี 2 สาย คือ สาย 76 และ 967 รถจะไปจอดที่ตลาดอัมพวาเลย





เป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของอัมพวากับ ตลาดน้ำอัมพวา หลายๆคนเรียกว่า ตลาดน้ำยามเย็น สองฝั่งคลองมีร้านค้า ร้านขายของมากมาย ทั้งอาหาร ขนม ร้านขายของที่ระลึกน่ารักๆ รวมถึงมีเรือพายขายสินค้าของชาวบ้าน ส่วนมากจะเป็นผลไม้และอาหาร ขนมไทยๆ และยังมีโฮมสเตย์ ที่พักราคาไม่แพงอยู่หลายแห่ง นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือชมบรรยากาศของตลาดน้ำได้
เวลาเปิด-ปิด วันศุกร์ - อาทิตย์ และวันหยุด 14.00-21.00


ใครมาตลาดน้ำอัมพวาพลาดไมได้ที่จะต้องมาแวะกันที่บ้านครูเอื้อ หรือ ครูเอื้อ สุนทรสนาน ผู้ก่อตั้งวงสุนทราภรณ์ นั่นเอง ทำไมบ้านครูเอื้อ ถึงอยู่ที่อัมพวาล่ะ คำตอบคืออัมพวาเป็นบ้านเกิดของครูเอื้อ นั่นเอง บ้านครูเอื้อเป็นอาคารไม้โบราณ ริมคลองอัมพวา แสดงชีวประวัติและผลงานของครูเอื้อ พร้อมกับเปิดเพลงของสุทราภรณ์ ได้บรรยากาศคลาสสิคเก่าๆ และที่บ้านครูเอื้อยังมีเพลงที่เป็นผลงานของครูเอื้อจำหน่ายด้วย
เวลาเปิด-ปิด วันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุด 11.00-20.00
พิพิธภัณฑ์เมื่อวันก่อน
ตั้งอยู่แถวร้านชานชาลา เปิดตั้งแต่ 11 โมง ถึง 1 ทุ่ม เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ในสมัยโบราณ เรือโบราณเก่าๆ อุปกรณ์การทำมาหากิน หรือ ของใช้ในชีวิตประจำวัน
เวลาเปิด-ปิด วันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุด 11.00-19.00


อยู่ที่อาคารเอนกประสงค์เทศบาลอัมพวาอยู่ติดริมแม่น้ำ ในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงขนมไทยหลากหลายชนิด อย่าเผลอไปหยิบทานนะคะ เพราะเป็นแบบจำลองที่จัดอยู่ในรูปแบบร้าน เรือ หรือว่าหาบขายของ
เวลาเปิด-ปิด วันศุกร์-อาทิตย์ 10.00-19.00


อยู่ใกล้กับตลาดน้ำอัมพวาเพียงขับข้ามคลองอัมพวามา เข้าทางวัดอัมพวัน ก็จะพบกับ เรือนไทยสวยๆ 4 หลัง ในสวนที่มีพันธุ์ไม้นานาชนิด จัดอยู่อย่างร่มรื่น บนเรือนไทยที่ว่านี้ เป็นพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า ภายในมีพวกข้าวองเครื่องใช้สมัยโบราณ จัดแสดงอยู่ในตู้กระจก บางอย่างก็ไม่ได้วางในตู้กระจก อย่าไปเผลอจับนะคะ ของเก่าแก่ต้องช่วยกันรักษา
- เวลาเปิด-ปิด ทุกวัน 8.30 - 17.30
- ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 5 บาท

หรือจะเรียกว่าวัดอัมพวาก็ได้ เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชการที่ 1 ในอุโบสถมีภาพกิจกรรมฝาผนังที่สมเด็จพระเทพทรงให้เขียนขึ้น ใครมาอัมพวาอย่าลืมมาแวะมาไหวะพระกันที่นี่ก่อนนะคะ

โบสถ์คริสต์ นิกายโรมันคาทอริกที่มีอายุกว่า 100 ปี อยู่เลยอุทยาน ร.2 ไปอีกประมาณ 8 กิโลเมตร โบสถ์จะอยู่ทางซ้ายมือ ที่อยากแนะนำให้มาเที่ยวชมที่นี่ก็เพราะว่า สถาปัตยกรรมในแบบ Gothic โบสถ์แม่พระบังเกิด สวยงามมาก และค่อนข้างใหญ่ ภายในโบสถ์ ตกแต่งด้วยภาพเขียนและกระจกสีสวยงามมากๆ
ชมหิ่งห้อย
กิจกรรมยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่มาอัมพวา อยากแนะนำว่าให้มากันในช่วงหน้าฝน หรือ เดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม จริงๆในเดือนอื่นๆก็พอมีหิ่งห้อย แต่ช่วงหน้าฝนจะมีมากที่สุด เกาะอยู่ตามต้นลำพูอยู่เป็นพันๆตัว ลองหาเวลาว่างๆวันศุกร์ เสาร์ มาค้างคืนกันที่อัมพวา ช่วงเวลาสัก หนึ่งทุ่มถึงสองทุ่ม นั่งเรือออกมาชมหิ่งห้อย แต่ถ้าออกมาช่วงดึกๆ ไปแล้วอาจจะไม่เห็นแสงวิบวับของหิ่งห้อยแล้วเพราะยิ่งดึกแสงของหิ่งห้อยจะน้อยลง ที่อัมพวาจะมีเรือรับจ้างไว้คอยให้บริการพาชมหิ่งห้อยราคาคนละ 60-80 บาท ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

มาถึงตลาดน้ำทั้งที่ก็ต้องลงเรือกันสักหน่อย เที่ยวชมวิถีชีวิตสองริมฝั่งคลอง ที่เราจะได้พบกับบ้านของชาวบ้านและโฮมสเตย์มากมาย รวมถึงพ่อค้าแม่ขายที่พายเรือออกมาขายของ ทั้งผลไม้ และ และอาหารต่างๆ ที่เราสามารถซื้อและทานกันบนเรือได้เลย
ร้านอาหารแนะนำ
ร้านชานชาลา
ร้านอยู่ติดริมคลองทางฝั่งอุทยาน ร.2 เป็นร้านขายเครื่องดื่มและอาหารว่าง บรรยากาศตัวร้านทำเหมือนเป็นชานชาลาสถานนีรถไฟ ของขึ้นชื่อที่มาแล้วต้องลองคือ น้ำม่วงชื่นชานชาลา ซึ่งเป็นสูตรที่พระราชทานจากสมเด็จพระเทพฯ


ร้านเก่าแก่แห่งหนึ่งในตลาดอัมพวาที่อร่อยมากๆ การันตีด้วยระยะเวลาที่เปิดมานานหลายสิบปี ร้านนี้เปิดทุกวัน ขนมเปี๊ยะก็ทำใหม่สดทุกวัน จึงทำให้หลายๆร้านรับไปขายมากมาย
กาญจนาพานิช
ร้านหาไม่ยากเพราะอยู่ตรงเชิงสะพานข้ามคลอง สะพานที่มีคนแน่นๆนั่นแหละค่ะ ร้านจะอยู่ข้างๆร้านขายโปสการ์ด ร้านนี้ก็เปิดมานานแล้วเช่นกัน ประมาณ 70 ปี มีเครืองดื่มหลายชนิดไม่ว่าจะเป้น กาแฟ โอเลี้ยง น้ำแข็งใส เหมาะกับการมานั่งพักเหนื่อยได้ดีจริงๆ ออ ถ้ามาแวะแล้วอย่าลืมสั่ง ขนมปังโรยโอวันตินดิบ
ร้านซีฟู้ด
ใครที่มาอัมพวาจะเห็นร้านขายอาหารซีฟู้ดอยู่มากมายหลายเจ้า ทั้งบริเวณริมท่าน้ำและบนฝั่ง มีทั้ง กุ้ง ปลาหมึก หอยเชลล์ สดๆ ย่างกันใหม่ๆ กับน้ำจิ้มรสเด็ด แถมราคาไม่แพงอีกต่างหาก



ร้านขายขนมไทยในตลาดอัมพวาที่มีชื่อเสียง เพียงเดินผ่านก็จะได้กลิ่นหอมๆ ของขนมไทยหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุน เต้าส่วน สาคู ขนมหวานต่างๆ
- กะปิคลองโคน
- เสื้อเพ้นท์มือ
- ปลาทูแมม่กลอง
- ของหัตถกรรมต่างๆ ตระกร้า กระเป๋า
- ลิ้นจี่พันธุ์ค่อม
- ขนมไทยต่างๆ