เนื่องด้วยสถานการณ์ Covid-19 ส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
บริษัทฯ จึงขอหยุดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป
บริษัทฯ จึงขอหยุดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป
Explore Sri Lanka with 8 Beautiful UNESCO World Heritage Sites

มีชื่อเต็มว่า สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา เป็นเกาะตั้งอยู่ตอนเหนือของมหาสมุทรอินเดีย เหนือเส้นศูนย์สูตรเล็กน้อย ในอดีตมีหลายชื่อ เช่น ลังกา ลังกาทวีป สิงหลทวีป และ ซีลอน ซึ่งเป็นชื่อที่เรียกกันสมัยเป็นอาณานิคมจนถึง พ.ศ. 2517
อาณาเขตติดต่อ
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือติดต่อกับอินเดีย และ ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ติดต่อกับ มัลดีฟส์

มีความแตกต่างกันมาก กล่าวคือ บริเวณตอนกลางค่อนลงไปทางใต้จะเป็นเทือกเขาสูงสลับที่ราบสูง ในเขตนี้จะปกคลุมด้วยป่าฝนชื้นหนาทึบ ในขณะที่ภาคกลางตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นที่ดอนและแห้งแล้ง ภาคเหนือ เป็นที่ราบกว้างใหญ่ ส่วนรอบเกาะเป็นที่ราบชายฝั่ง
ศรีลังกาประกอบด้วย 9 จังหวัด
- Central Province เมืองหลวง แคนดี้
- Eastern Province เมืองหลวง ทรินโคมาลี
- North Central Province เมืองหลวง อนุราธปุระ
- Northern Province เมืองหลวง จ๊าฟน่า
- North Western Province เมืองหลวง Kurunegala
- Western Province เมืองหลวง โคลอมโบ
- Southern Province เมืองหลวง กอล์ล
- Sabaragamuwa Province เมืองหลวง รัตนปุระ
- Uva Province เมืองหลวง บาดูลล่า
สถานที่ท่องเที่ยวของศรีลังกา
โคลอมโบ
- วัดกัลณียา kelaniya Temple
- วัดคงคาราม Gangarama Temple
- Independence Memorial Hall
- Mount Lavinia Beach
- ตลาดปลาเมืองนิกอมโบ
- อิสระช้อปป้งที่ Odel
- วัดอิสุรุมุณิยะ Isurumuniya Vihara
- ต้นพระศรีมหาโพธิ์
- โลหะปราสาท
- พระมหาเจดีย์รุวันเวลิสยา
- เจดีย์ถูปาราม
- Moonstone หรือ Sandakada pahana
- เจดีย์อภัยคีรี
- สระแฝด Kuttam Pokuna
- มิหินตะเล
- พิพิธภัณฑ์เมืองโปโลนนารุวะ
- เวชยันต์ปราสาท
- วังและท้องพระโรง
- นิสสังกลตามณฑป
- สระสรงน้ำ
- ศิวะเทวาลัย 1 และ 2
- Atadage - อตะคาเท
- วัฏฏะทาเคหรือวิหารคตวงกลม
- วิหารถูปาราม (Thuparama)
- Moonstone หรือ Sandakada pahana
- อาคารสำหรับการบูชา
- ศิลาจารึก
- Rankoth Vehera
- วิหารกัล หรือวิหารหิน
- พระเขี้ยวแก้ว
- วัดบุปผารามหรือวัดมัลละวัตตะ
- จุดชมวิวเมืองแคนดี้
- Botanical Gardent
- พิธีแห่พระเขี้ยวแก้ว
- Kandy dance
- โรงงานผลิตอัญมณี
- ศูนย์เสื้อผ้าบาติค
โคลัมโบเป็นเมืองหลวงทางธุระกิจของประเทศศรีลังกา ซึ่งอดีตศรีลังกาเคยตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษในปี คศ 1796 ทำให้โคลัมโบ ได้กลายเป็นศูนย์กลางการค้าขายติดต่อกับนาๆประเทศโดยเฉพาะ อาหรับ สเปน โปรตุเกส ดังนั้นโคลัมโบจึงถูกวางผังเมืองและตึกต่างๆจะมีสถาปัตยกรรมที่ดูสวยงาม โดยเฉพาะสถานที่ราชการ

วัดกัลยาณี ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโคลัมโบ เมืองหลวงของประเทศ ความสวยงามของวัดกัลยาณีถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่โดดเด่น ทั้งวิหารสีน้ำตาลอ่อนที่ดูเคร่งขรึม แต่งดงาม ขณะที่ด้านในแม้จะดูทึมทึบ แต่แสงที่ส่องลอดมาจากด้านนอกขับเน้นให้ภาพวาดจิตรกรรมฝาผนัง ที่เล่าเรื่องตามจารึกทางพุทธศาสนาของศรีลังกาที่บันทึกไว้ว่า พระพุทธเจ้าเสด็จมาประเทศศรีลังกา 3 ครั้ง ดูสง่างามเพิ่มขึ้น

ส่วนด้านหน้าของพระวิหาร ซึ่งจะแตกต่างจากของไทยเรา
ส่วนด้านหน้าของพระวิหาร ซึ่งจะแตกต่างจากของไทยเรา
ส่วนด้านหน้าของพระวิหาร ซึ่งจะแตกต่างจากของไทยเราส่วนด้านหน้าของพระวิหาร ซึ่งจะแตกต่างจากของไทยเรา

พระพุทธรูปปางไสยาสน์นี้ อยู่ในพระอิริยาบถบรรทมตะแคงขวา เมื่อคราวจะปรินิพพาน
พระพุทธรูปปางไสยาสน์นี้ อยู่ในพระอิริยาบถบรรทมตะแคงขวา เมื่อคราวจะปรินิพพาน
พระพุทธรูปปางไสยาสน์นี้ อยู่ในพระอิริยาบถบรรทมตะแคงขวา เมื่อคราวจะปรินิพพานพระพุทธรูปปางไสยาสน์นี้ อยู่ในพระอิริยาบถบรรทมตะแคงขวา เมื่อคราวจะปรินิพพาน

พราหมณ์โสตถิยะเดินถือกำหญ้าคามา ๘ กำ ได้ถวายหญ้าคาทั้ง ๘ กำแก่
พระมหาบุรุษ
พระมหาบุรุษ
พราหมณ์โสตถิยะเดินถือกำหญ้าคามา ๘ กำ ได้ถวายหญ้าคาทั้ง ๘ กำแก่
พระมหาบุรุษ
พระมหาบุรุษ
พราหมณ์โสตถิยะเดินถือกำหญ้าคามา ๘ กำ ได้ถวายหญ้าคาทั้ง ๘ กำแก่
พระมหาบุรุษ พราหมณ์โสตถิยะเดินถือกำหญ้าคามา ๘ กำ ได้ถวายหญ้าคาทั้ง ๘ กำแก่
พระมหาบุรุษ
พระมหาบุรุษ พราหมณ์โสตถิยะเดินถือกำหญ้าคามา ๘ กำ ได้ถวายหญ้าคาทั้ง ๘ กำแก่
พระมหาบุรุษ

ความสวยงาม ความละเอียดอ่อน ของพุทธประวัติ
ความสวยงาม ความละเอียดอ่อน ของพุทธประวัติ
ความสวยงาม ความละเอียดอ่อน ของพุทธประวัติความสวยงาม ความละเอียดอ่อน ของพุทธประวัติ

ภาพวาดบนผนังเป็นพระพุทธเจ้าปางต่างๆและขบวนแห่พระเขี้ยวแก้ว
ภาพวาดบนผนังเป็นพระพุทธเจ้าปางต่างๆและขบวนแห่พระเขี้ยวแก้ว
ภาพวาดบนผนังเป็นพระพุทธเจ้าปางต่างๆและขบวนแห่พระเขี้ยวแก้วภาพวาดบนผนังเป็นพระพุทธเจ้าปางต่างๆและขบวนแห่พระเขี้ยวแก้ว

ตามตำนานบอกว่าเป็นสถานที่ๆพระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาประทับจึงสร้างเจดีย์ครอบสถนที่ไว้
ตามตำนานบอกว่าเป็นสถานที่ๆพระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาประทับจึงสร้างเจดีย์ครอบสถนที่ไว้
ตามตำนานบอกว่าเป็นสถานที่ๆพระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาประทับจึงสร้างเจดีย์ครอบสถนที่ไว้ตามตำนานบอกว่าเป็นสถานที่ๆพระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาประทับจึงสร้างเจดีย์ครอบสถนที่ไว้
วัดในนิกายสยามวงศ์ โดยสิ่งที่ได้เห็นคือความหลากหลายของพระพุทธรูปที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งพระอวโลกิเตศวร เจ้าแม่กวนอิม พระพุทธรูปแบบจีน พระพุทธรูปแบบพม่า หรือแม้แต่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังษี ก็ประดิษฐานอยู่ที่นี่ ถือเป็นอีกวัดที่มีพระพุทธรูปหลากหลายชาติ และหลากวัฒนธรรมประดิษฐานอยู่

พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานในวิหาร
พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานในวิหาร
พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานในวิหารพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานในวิหาร

ภาพแกะสลักต่างๆที่อยู่ด้านซ้ายของพระพุทธรูป
ภาพแกะสลักต่างๆที่อยู่ด้านซ้ายของพระพุทธรูป
ภาพแกะสลักต่างๆที่อยู่ด้านซ้ายของพระพุทธรูปภาพแกะสลักต่างๆที่อยู่ด้านซ้ายของพระพุทธรูป

ปติมากรรมทีอยู่ภายในวิหาร
ปติมากรรมทีอยู่ภายในวิหาร
ปติมากรรมทีอยู่ภายในวิหารปติมากรรมทีอยู่ภายในวิหาร

บริเวณหน้าวัดยามค้ำคืน ซึ่งก็ยังมีชาวพุทธเข้ามากราบพระทำบุญ
บริเวณหน้าวัดยามค้ำคืน ซึ่งก็ยังมีชาวพุทธเข้ามากราบพระทำบุญ
บริเวณหน้าวัดยามค้ำคืน ซึ่งก็ยังมีชาวพุทธเข้ามากราบพระทำบุญบริเวณหน้าวัดยามค้ำคืน ซึ่งก็ยังมีชาวพุทธเข้ามากราบพระทำบุญ
อาคารที่ระลึกการประกาศอิสระภาพ Independence Memorial Hall สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญญาลักษณ์ของศรีลังกาที่ได้รับเอกราชจากอังกฤษเมื่อปี พศ. 2491 หลังจากที่เป็นอาณานิคมของต่างชาติมาเกือน 500 ปี

เป็นอาคารสำหรับพิธีการส่วนบริเวณรอบๆเป็นแบบสวนพักผ่อนจะมีผู้คนมาออกกำลังกาย
เป็นอาคารสำหรับพิธีการส่วนบริเวณรอบๆเป็นแบบสวนพักผ่อนจะมีผู้คนมาออกกำลังกาย
เป็นอาคารสำหรับพิธีการส่วนบริเวณรอบๆเป็นแบบสวนพักผ่อนจะมีผู้คนมาออกกำลังกายเป็นอาคารสำหรับพิธีการส่วนบริเวณรอบๆเป็นแบบสวนพักผ่อนจะมีผู้คนมาออกกำลังกาย

ช่วงเย็นเดินเล่นสบายนักท่องเที่ยวเพลิดเพลินกับการชมชาวศรีลังกาที่มาออกกำลัง
ช่วงเย็นเดินเล่นสบายนักท่องเที่ยวเพลิดเพลินกับการชมชาวศรีลังกาที่มาออกกำลัง
ช่วงเย็นเดินเล่นสบายนักท่องเที่ยวเพลิดเพลินกับการชมชาวศรีลังกาที่มาออกกำลังช่วงเย็นเดินเล่นสบายนักท่องเที่ยวเพลิดเพลินกับการชมชาวศรีลังกาที่มาออกกำลัง

ด้านหน้าอาคารจมีสิงห์ซึ่งเป็นสัญญาลักษณ์ชาวสิงหล พลเมืองส่วนใหญ่ของศรีลังกา
ด้านหน้าอาคารจมีสิงห์ซึ่งเป็นสัญญาลักษณ์ชาวสิงหล พลเมืองส่วนใหญ่ของศรีลังกา
ด้านหน้าอาคารจมีสิงห์ซึ่งเป็นสัญญาลักษณ์ชาวสิงหล พลเมืองส่วนใหญ่ของศรีลังกาด้านหน้าอาคารจมีสิงห์ซึ่งเป็นสัญญาลักษณ์ชาวสิงหล พลเมืองส่วนใหญ่ของศรีลังกา
Mount Lavinia Beach in Sri Lanka is a main sea-bathing spot in the island. Here, depending on season, the waves can be swimmable and it’s host to some amazing sunsets. It also recides in a city steeped with history.

บางช่วงคลื่นค่อนข้างแรงเหมาะสำหรับเล่นกระดานโต้คลื่น
บางช่วงคลื่นค่อนข้างแรงเหมาะสำหรับเล่นกระดานโต้คลื่น
บางช่วงคลื่นค่อนข้างแรงเหมาะสำหรับเล่นกระดานโต้คลื่นบางช่วงคลื่นค่อนข้างแรงเหมาะสำหรับเล่นกระดานโต้คลื่น

บางช่วงคลื่นก็สงบราบเรียบลงเล่นได้อย่างสบาย
บางช่วงคลื่นก็สงบราบเรียบลงเล่นได้อย่างสบาย
บางช่วงคลื่นก็สงบราบเรียบลงเล่นได้อย่างสบายบางช่วงคลื่นก็สงบราบเรียบลงเล่นได้อย่างสบาย
เป็นตลาดปลาที่ติดกับชายทะเล เรือชาวประมงจะจอดบนชายหาดนำปลาที่ได้มาขายกันสดๆ

บริเวณหน้าตลาดดึกดักไปด้วยทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
บริเวณหน้าตลาดดึกดักไปด้วยทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
บริเวณหน้าตลาดดึกดักไปด้วยทั้งผู้ซื้อและผู้ขายบริเวณหน้าตลาดดึกดักไปด้วยทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย

ปลาบางส่วนนำมาตากแดดเป็นปลาแห้ง
ปลาบางส่วนนำมาตากแดดเป็นปลาแห้ง
ปลาบางส่วนนำมาตากแดดเป็นปลาแห้งปลาบางส่วนนำมาตากแดดเป็นปลาแห้ง
เมืองอนุราธปุระ Anuradhapura
อนุราธปุระเป็นเมืองหลวงแห่งแรก ซึ่งคงความเป็นราชธานียาวนานกว่า 1,200 ปี ในสมัยนี้พุทธศาสนาได้เข้ามาประดิษฐานอย่างมั่นคงภายใต้การอุปถัมภ์ของกษัตริย์ วิถีพุทธได้เป็นหลักสำคัญในการดำรงชีวิตของชาวสิงหลและศรีลังกา ได้เป็นศูนย์กลางของการเผยแผ่พุทธศาสนานิกายเถรวาทที่สำคัญที่สุดนอกดินแดนอินเดีย ต่อมาในศตวรรษที่ 13 จึงได้เสื่อมลง ปัจจุบันได้รับเป็นหนึ่งในมรดกโลก

การถวายเพลต่อพระบรมสารีริกธาตุ จะมีการแห่ตามที่เห็นในภาพทำแบบนี้ประจำทุกวันเวลา 11.00 น
การถวายเพลต่อพระบรมสารีริกธาตุ จะมีการแห่ตามที่เห็นในภาพทำแบบนี้ประจำทุกวันเวลา 11.00 น
การถวายเพลต่อพระบรมสารีริกธาตุ จะมีการแห่ตามที่เห็นในภาพทำแบบนี้ประจำทุกวันเวลา 11.00 นการถวายเพลต่อพระบรมสารีริกธาตุ จะมีการแห่ตามที่เห็นในภาพทำแบบนี้ประจำทุกวันเวลา 11.00 น
วัดอิสุรุมุณิยะ Isurumuniya Vihara
วัดอิสุรุมุณิยะ สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 3 เชื่อกันว่าพระ มหินท์อรหันต์ ราชโอรสของพระเจ้าอโศกมหาราช ได้เคยมาจำพรรษาแรกที่วัดแห่งนี้

เป็นส่วนด้านหน้าทางเข้าทุกคนต้องถอดลองเท้าไว้ประตูทางเข้า
เป็นส่วนด้านหน้าทางเข้าทุกคนต้องถอดลองเท้าไว้ประตูทางเข้า
เป็นส่วนด้านหน้าทางเข้าทุกคนต้องถอดลองเท้าไว้ประตูทางเข้าเป็นส่วนด้านหน้าทางเข้าทุกคนต้องถอดลองเท้าไว้ประตูทางเข้า

ภาพแกะสลักด้านซ้ายมือของวิหาร (ลืมความหมายซึ่งจะนำมาเขียนภายหลัง)
ภาพแกะสลักด้านซ้ายมือของวิหาร (ลืมความหมายซึ่งจะนำมาเขียนภายหลัง)
ภาพแกะสลักด้านซ้ายมือของวิหาร (ลืมความหมายซึ่งจะนำมาเขียนภายหลัง)ภาพแกะสลักด้านซ้ายมือของวิหาร (ลืมความหมายซึ่งจะนำมาเขียนภายหลัง)

พระพุทธรูปปางปรินิพานในวิหารใหญ่
พระพุทธรูปปางปรินิพานในวิหารใหญ่
พระพุทธรูปปางปรินิพานในวิหารใหญ่พระพุทธรูปปางปรินิพานในวิหารใหญ่

รูปปั้นต่างๆที่รายล้อมพระพุทธรูปภายในวิหาร
รูปปั้นต่างๆที่รายล้อมพระพุทธรูปภายในวิหาร
รูปปั้นต่างๆที่รายล้อมพระพุทธรูปภายในวิหารรูปปั้นต่างๆที่รายล้อมพระพุทธรูปภายในวิหาร
รูปสลักหินคู่รัก The Lover ในพิพิธภัณฑ์ของวัด ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นภาพสลักแสดงเรื่องราวของเจ้าชายสาลิยะ โอรสของพระเจ้าทุฏฐคามณี ที่ทรงหลงรักสาวสามัญชนและไม่อาจตัดความรักที่มีต่อหญิงวรรณะต่ำได้ จนเป็นเหตุให้เจ้าชายลาออกจากฐานันดรศักดิ์

ไกด์กำลังอธิบายประวัติของรูปสลักหินคู่รัก The Lover
ไกด์กำลังอธิบายประวัติของรูปสลักหินคู่รัก The Lover
ไกด์กำลังอธิบายประวัติของรูปสลักหินคู่รัก The Loverไกด์กำลังอธิบายประวัติของรูปสลักหินคู่รัก The Lover

รูปสลักหินคู่รัก The Lover
ต้นพระศรีมหาโพธิ์
เป็นตันที่พระนางสังฆมิตตา ได้อัญเชิญกิ่งพระศรีมหาโพธิ์พุทธคยา (ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ประเทศอินเดีย ปลูกขึ้นเมือ 2,250 ปีก่อน นับเป็นต้นไม้แห่งประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เป็นต้นไม้ที่อายุยืนยาวนานกว่าตนเดิม และเพื่อเผยแพร่พระพุทธศาสนาในประเทศศรีลังกา

ทางขึ้นด้านหน้าของต้พระศรีมหาโพธิ์
ทางขึ้นด้านหน้าของต้พระศรีมหาโพธิ์
ทางขึ้นด้านหน้าของต้พระศรีมหาโพธิ์ทางขึ้นด้านหน้าของต้พระศรีมหาโพธิ์

ไม้ทองค้ำส่วนทีเป็นต้นเดิมของพระศรีมหาโพธิ์
ไม้ทองค้ำส่วนทีเป็นต้นเดิมของพระศรีมหาโพธิ์
ไม้ทองค้ำส่วนทีเป็นต้นเดิมของพระศรีมหาโพธิ์ไม้ทองค้ำส่วนทีเป็นต้นเดิมของพระศรีมหาโพธิ์

อีกส่วนหนึ่งหลังจากฟ้าผ่าแล้วมีหน่อใหม่เกิดแทรกขึ้นมา พร้อมชาวศรีลังกา อีกส่วนหนึ่งหลังจากฟ้าผ่าแล้วมีหน่อใหม่เกิดแทรกขึ้นมา พร้อมชาวศรีลังกา
อีกส่วนหนึ่งหลังจากฟ้าผ่าแล้วมีหน่อใหม่เกิดแทรกขึ้นมา พร้อมชาวศรีลังกา อีกส่วนหนึ่งหลังจากฟ้าผ่าแล้วมีหน่อใหม่เกิดแทรกขึ้นมา พร้อมชาวศรีลังกา
อีกส่วนหนึ่งหลังจากฟ้าผ่าแล้วมีหน่อใหม่เกิดแทรกขึ้นมา พร้อมชาวศรีลังกา อีกส่วนหนึ่งหลังจากฟ้าผ่าแล้วมีหน่อใหม่เกิดแทรกขึ้นมา พร้อมชาวศรีลังกา อีกส่วนหนึ่งหลังจากฟ้าผ่าแล้วมีหน่อใหม่เกิดแทรกขึ้นมา พร้อมชาวศรีลังกา อีกส่วนหนึ่งหลังจากฟ้าผ่าแล้วมีหน่อใหม่เกิดแทรกขึ้นมา พร้อมชาวศรีลังกา
โลหะปราสาทแห่งที่ 2 ประเทศศรีลังกา สร้างประมาณปี พ.ศ.382 โดยพระเจ้าทุฏฐคามณีอภัย กษัตริย์แห่งอนุราธปุระ ได้นำแบบโลหะปราสาทของนางวิสาขามาก่อสร้างเป็นแบบ 9 ชั้นความยาวด้านละ 100 เมตร มีจำนวนห้อง 1,000 ห้องเท่าต้นแบบ หลังคามุงกระเบื้องด้วยโลหะทองแดงผสม ภายหลังถูกไฟไหม้และถูกทำลาย แต่ยังคงเหลือซากปรักหักพังให้เห็น

เป็นโลหะปราสาทจำลองเพื่อให้เห็นรูปทรงของอาคารว่ามีลักษณะอย่างไร
เป็นโลหะปราสาทจำลองเพื่อให้เห็นรูปทรงของอาคารว่ามีลักษณะอย่างไร
เป็นโลหะปราสาทจำลองเพื่อให้เห็นรูปทรงของอาคารว่ามีลักษณะอย่างไรเป็นโลหะปราสาทจำลองเพื่อให้เห็นรูปทรงของอาคารว่ามีลักษณะอย่างไร

เสาคอนกรีตทั้งหมด 1600 ต้นของตัวโลหะปราสาทจะเป็นของดั้งเดิมหรือจำลองขึ้นก็สุดประมาณได้
เสาคอนกรีตทั้งหมด 1600 ต้นของตัวโลหะปราสาทจะเป็นของดั้งเดิมหรือจำลองขึ้นก็สุดประมาณได้
เสาคอนกรีตทั้งหมด 1600 ต้นของตัวโลหะปราสาทจะเป็นของดั้งเดิมหรือจำลองขึ้นก็สุดประมาณได้เสาคอนกรีตทั้งหมด 1600 ต้นของตัวโลหะปราสาทจะเป็นของดั้งเดิมหรือจำลองขึ้นก็สุดประมาณได้

ด้านข้างช่วงที่เดินมาจากต้นพระศรีมหาโพธิ์
ด้านข้างช่วงที่เดินมาจากต้นพระศรีมหาโพธิ์
ด้านข้างช่วงที่เดินมาจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ด้านข้างช่วงที่เดินมาจากต้นพระศรีมหาโพธิ์

ประตูด้านหน้าทางเข้าจะมีชาวศรีลังกาไม่ว่าผู้ใหญ่หรือเด็กเข้ามาสักการะอย่างต่อเนื่อง
ประตูด้านหน้าทางเข้าจะมีชาวศรีลังกาไม่ว่าผู้ใหญ่หรือเด็กเข้ามาสักการะอย่างต่อเนื่อง
ประตูด้านหน้าทางเข้าจะมีชาวศรีลังกาไม่ว่าผู้ใหญ่หรือเด็กเข้ามาสักการะอย่างต่อเนื่องประตูด้านหน้าทางเข้าจะมีชาวศรีลังกาไม่ว่าผู้ใหญ่หรือเด็กเข้ามาสักการะอย่างต่อเนื่อง

ทำการสักการะโดยการเดินรอบเจดีย์
ทำการสักการะโดยการเดินรอบเจดีย์
ทำการสักการะโดยการเดินรอบเจดีย์ทำการสักการะโดยการเดินรอบเจดีย์

บางครอบครัวพากันสวดมนต์สักการะ
บางครอบครัวพากันสวดมนต์สักการะ
บางครอบครัวพากันสวดมนต์สักการะบางครอบครัวพากันสวดมนต์สักการะ

เด็กๆชาวศรีลังกาเห็นแม่ชีขอถ่ายรูปด้วย
เด็กๆชาวศรีลังกาเห็นแม่ชีขอถ่ายรูปด้วย
เด็กๆชาวศรีลังกาเห็นแม่ชีขอถ่ายรูปด้วยเด็กๆชาวศรีลังกาเห็นแม่ชีขอถ่ายรูปด้วย
เจดีย์ถูปาราม
เจดีย์ถูปาราม พระเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญที่สุด เป็นพระเจดีย์องค์แรกของศรีลังกา มีชางลอมรอบ ซึ่งสถานที่แห่งนี้พระพุทธองค์เคยเสด็จมาด้วยพระองค์เอง และเป็นที่ประดิษฐานพระรากขวัญเบื้องขวา กระดูกไหปลาร้า ซึ่งมีอยู่แห่งเดียวในโลก
เจดีย์ถูปาราม พระเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญที่สุด เป็นพระเจดีย์องค์แรกของศรีลังกา มีชางลอมรอบ ซึ่งสถานที่แห่งนี้พระพุทธองค์เคยเสด็จมาด้วยพระองค์เอง และเป็นที่ประดิษฐานพระรากขวัญเบื้องขวา กระดูกไหปลาร้า ซึ่งมีอยู่แห่งเดียวในโลก

ด้านหน้าทางขึ้นสักการะเจดีย์
ด้านหน้าทางขึ้นสักการะเจดีย์
ด้านหน้าทางขึ้นสักการะเจดีย์ด้านหน้าทางขึ้นสักการะเจดีย์

ด้านจะสังเกตุเห็นว่าเป็นเจดีย์ยกฐานสูง
ด้านจะสังเกตุเห็นว่าเป็นเจดีย์ยกฐานสูง
ด้านจะสังเกตุเห็นว่าเป็นเจดีย์ยกฐานสูงด้านจะสังเกตุเห็นว่าเป็นเจดีย์ยกฐานสูง

เสาหลังคาซึ่งยังเหลือบางส่วนที่ยังตั้งอยู่บางวส่วนก็ล้มจัดกองไว้รอบๆเจดีย์
เสาหลังคาซึ่งยังเหลือบางส่วนที่ยังตั้งอยู่บางวส่วนก็ล้มจัดกองไว้รอบๆเจดีย์
เสาหลังคาซึ่งยังเหลือบางส่วนที่ยังตั้งอยู่บางวส่วนก็ล้มจัดกองไว้รอบๆเจดีย์เสาหลังคาซึ่งยังเหลือบางส่วนที่ยังตั้งอยู่บางวส่วนก็ล้มจัดกองไว้รอบๆเจดีย์

ทักษิณาวรรต เป็นคำผสมระหว่างคำว่าทักษิณที่หมายความถึงมือขวา ด้านขวา หรือใช้เรียกทิศที่ตั้งอยู่ทางด้านขวามือคือทิศใต้ รวมกับคำว่าอาวรรต ที่มีความหมายถึงการเวียนเป็นวงกลม
ทักษิณาวรรต เป็นคำผสมระหว่างคำว่าทักษิณที่หมายความถึงมือขวา ด้านขวา หรือใช้เรียกทิศที่ตั้งอยู่ทางด้านขวามือคือทิศใต้ รวมกับคำว่าอาวรรต ที่มีความหมายถึงการเวียนเป็นวงกลม
ทักษิณาวรรต เป็นคำผสมระหว่างคำว่าทักษิณที่หมายความถึงมือขวา ด้านขวา หรือใช้เรียกทิศที่ตั้งอยู่ทางด้านขวามือคือทิศใต้ รวมกับคำว่าอาวรรต ที่มีความหมายถึงการเวียนเป็นวงกลมทักษิณาวรรต เป็นคำผสมระหว่างคำว่าทักษิณที่หมายความถึงมือขวา ด้านขวา หรือใช้เรียกทิศที่ตั้งอยู่ทางด้านขวามือคือทิศใต้ รวมกับคำว่าอาวรรต ที่มีความหมายถึงการเวียนเป็นวงกลม
ในภาษาสิงหล เป็นสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของศรีลังกาโบราณ เป็นหินแกะสลักอย่างประณีต รูปทรงครึ่งวงกลม มักจะวางไว้ที่ด้านล่างของบันไดหรือทางเข้า
รูปแกะสลักแต่ละรอบภายในครึ่งวงกลมนี้ จะเป็นภาพต่อเนื่องอยู่ภายในกรอบที่เป็นเปลวเพลิงบริสุทธิ์ ลวดลายต่าง ๆ
- ความหมายเชิงสัญญลักษณ์ เช่น ช้าง - หมายถึงการเกิด, ม้า - ความชรา, สิงห์โต - ความเจ็บไข้, วัว - ความตายและการเน่าเปื่อย, ห่าน - ความบริสุทธิ์, งู - ตันหาและความต้องการ ตรงกลางจะเป็นดอกบัวศักดิ์สิทธิ์

มูนสโตนอันนี้จัดว่าเป็นอันที่ยังสมบูรณ์ที่สุดในอนุราธปุระ
มูนสโตนอันนี้จัดว่าเป็นอันที่ยังสมบูรณ์ที่สุดในอนุราธปุระ
มูนสโตนอันนี้จัดว่าเป็นอันที่ยังสมบูรณ์ที่สุดในอนุราธปุระมูนสโตนอันนี้จัดว่าเป็นอันที่ยังสมบูรณ์ที่สุดในอนุราธปุระ

เป็นมุมมองด้านหน้า
เป็นมุมมองด้านหน้า
เป็นมุมมองด้านหน้าเป็นมุมมองด้านหน้า
ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดอภัยคีรีวิหาร เป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนานิกายมหายาน ซึ่งเคยเจริญรุ่งเรืองมากในยุคสมัยนั้น เป็นเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเจดีย์เชตวัน เส้นผ่านศูนย์กลาง 110 เมตร สูง 113 เมตร ถูกสร้างโดยพระเจ้าวัฏฏคามณีอภัย เมื่อราว 2,100 ปีก่อน

การขึ้นไปสักการะจะต้องถอดรองเท้าตั้งแต่ซุ้มประตู
การขึ้นไปสักการะจะต้องถอดรองเท้าตั้งแต่ซุ้มประตู
การขึ้นไปสักการะจะต้องถอดรองเท้าตั้งแต่ซุ้มประตูการขึ้นไปสักการะจะต้องถอดรองเท้าตั้งแต่ซุ้มประตู

อีกมุมหนึ่งด้านหน้าทางขึ้น
อีกมุมหนึ่งด้านหน้าทางขึ้น
อีกมุมหนึ่งด้านหน้าทางขึ้นอีกมุมหนึ่งด้านหน้าทางขึ้น
หนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุดของสถานที่อาบน้ำ หรือ สระว่ายน้ำ ในสมัยโบราณของประเทศศรีลังกา และเป็นสิ่งก่อสร้างที่มี ความโดดเด่นทางด้านศิลปะและสถาปัตยกรรมของสิงหลโบราณ โดยสระน้ำแฝดแห่งนี้นั้นมีอายุมากกว่า 1700 กว่าปี ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ใช้เป็นที่สรงน้ำ

อายุกว่า 1,700 ปียังบูรณะไว้ได้อย่างสวยงาม
อายุกว่า 1,700 ปียังบูรณะไว้ได้อย่างสวยงาม
อายุกว่า 1,700 ปียังบูรณะไว้ได้อย่างสวยงามอายุกว่า 1,700 ปียังบูรณะไว้ได้อย่างสวยงาม
มาจากคำว่า มหิน บวก ตะเล คำว่า มหิน หมายถึง พระมหินทเถระ พระโอรสของพระเจ้าอโศกแห่งอินเดีย ส่วนคำว่า ตะเล เป็นภาษาพื้นเมืองแปลว่า ดอยหรือภูเขา สรุปก็คือภูเขาที่พระมหินทได้เสด็จมาพบกับพระเจ้าเทวานัมปิยะติสสะ กษัตริย์ลังกาในสมัยนั้น ณ ที่แห่งนั้นได้มีการสร้างเจดีย์อัมทิตา ซึ่งแปลว่า เจดีย์บนเนินต้นมะม่วง เพื่อบรรจุพระธาตุของพระมหินทเถระ ผู้นำพระพุทธศาสนาเข้ามาเผยแพร่ในเกาะลังกาเป็นครั้งแรก

บันใดทางขึ้นทั้งสองข้างทางจะเป็นต้นลีลาวดี
บันใดทางขึ้นทั้งสองข้างทางจะเป็นต้นลีลาวดี
บันใดทางขึ้นทั้งสองข้างทางจะเป็นต้นลีลาวดีบันใดทางขึ้นทั้งสองข้างทางจะเป็นต้นลีลาวดี

เจดีย์ แห่งนี้บรรจุพระสาลีริกธาตุ ของพระมหินทร์เถระ ซึ่งเป็นลูกชายของพระเจ้าอโศกมหาราช ที่ได้เข้ามาเผยแพร่ พระพุทธศาสนา ครั้งแรกในศรีลังกา
เจดีย์ แห่งนี้บรรจุพระสาลีริกธาตุ ของพระมหินทร์เถระ ซึ่งเป็นลูกชายของพระเจ้าอโศกมหาราช ที่ได้เข้ามาเผยแพร่ พระพุทธศาสนา ครั้งแรกในศรีลังกา
เจดีย์ แห่งนี้บรรจุพระสาลีริกธาตุ ของพระมหินทร์เถระ ซึ่งเป็นลูกชายของพระเจ้าอโศกมหาราช ที่ได้เข้ามาเผยแพร่ พระพุทธศาสนา ครั้งแรกในศรีลังกาเจดีย์ แห่งนี้บรรจุพระสาลีริกธาตุ ของพระมหินทร์เถระ ซึ่งเป็นลูกชายของพระเจ้าอโศกมหาราช ที่ได้เข้ามาเผยแพร่ พระพุทธศาสนา ครั้งแรกในศรีลังกา

สมัยดั้งเดิมจะมีหลังคาคลุม ปัจจุบันเหลือแต่เสาบางส่วนเท่านั้น
สมัยดั้งเดิมจะมีหลังคาคลุม ปัจจุบันเหลือแต่เสาบางส่วนเท่านั้น
สมัยดั้งเดิมจะมีหลังคาคลุม ปัจจุบันเหลือแต่เสาบางส่วนเท่านั้นสมัยดั้งเดิมจะมีหลังคาคลุม ปัจจุบันเหลือแต่เสาบางส่วนเท่านั้น

ส่วนของเขาหินที่นั่งทำสมาธิของพระภิกษุในสมัยนั้น
ส่วนของเขาหินที่นั่งทำสมาธิของพระภิกษุในสมัยนั้น
ส่วนของเขาหินที่นั่งทำสมาธิของพระภิกษุในสมัยนั้นส่วนของเขาหินที่นั่งทำสมาธิของพระภิกษุในสมัยนั้น

พระมหาเสยยเจดีย์ ภายในประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าและพระอัฐิธาตุของพระ
มหินทเถระเจ้า
มหินทเถระเจ้า
พระมหาเสยยเจดีย์ ภายในประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าและพระอัฐิธาตุของพระ
มหินทเถระเจ้า
มหินทเถระเจ้า
พระมหาเสยยเจดีย์ ภายในประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าและพระอัฐิธาตุของพระ
มหินทเถระเจ้าพระมหาเสยยเจดีย์ ภายในประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าและพระอัฐิธาตุของพระ
มหินทเถระเจ้า
มหินทเถระเจ้าพระมหาเสยยเจดีย์ ภายในประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าและพระอัฐิธาตุของพระ
มหินทเถระเจ้า

พระพุทธรูปปางปรินิพพานที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารเล็กๆข้าง พระมหาเสยยเจดีย์
พระพุทธรูปปางปรินิพพานที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารเล็กๆข้าง พระมหาเสยยเจดีย์
พระพุทธรูปปางปรินิพพานที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารเล็กๆข้าง พระมหาเสยยเจดีย์พระพุทธรูปปางปรินิพพานที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารเล็กๆข้าง พระมหาเสยยเจดีย์

คณะทัวร์และไกด์ ร่วมทำบุญถวายเพลกับทางเณรที่นำขึ้นไปสักการะที่วิหารด้านบนเขา
คณะทัวร์และไกด์ ร่วมทำบุญถวายเพลกับทางเณรที่นำขึ้นไปสักการะที่วิหารด้านบนเขา
คณะทัวร์และไกด์ ร่วมทำบุญถวายเพลกับทางเณรที่นำขึ้นไปสักการะที่วิหารด้านบนเขาคณะทัวร์และไกด์ ร่วมทำบุญถวายเพลกับทางเณรที่นำขึ้นไปสักการะที่วิหารด้านบนเขา

บริเวณโรงครัวสำหรับเลี้ยงพระและผู้คนที่อยู่ที่มิหินตะลสมัยนั้น
บริเวณโรงครัวสำหรับเลี้ยงพระและผู้คนที่อยู่ที่มิหินตะลสมัยนั้น
บริเวณโรงครัวสำหรับเลี้ยงพระและผู้คนที่อยู่ที่มิหินตะลสมัยนั้นบริเวณโรงครัวสำหรับเลี้ยงพระและผู้คนที่อยู่ที่มิหินตะลสมัยนั้น

อีกส่วนหนึ่งของโรงครัวที่มิหินตะเล
อีกส่วนหนึ่งของโรงครัวที่มิหินตะเล
อีกส่วนหนึ่งของโรงครัวที่มิหินตะเลอีกส่วนหนึ่งของโรงครัวที่มิหินตะเล
เมืองหลวงแห่งที่สอง ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 13 เมืองโปโลนนรุวะเพิ่มความสำคัญในฐานะเมืองสำหรับการแปรพระราชฐานของพระเจ้าอัคคโพธิที่ 4 และเป็นราชธานีในที่สุด เนื่องจากเมืองนี้มีชัยภูมิที่ยากต่อการโจมตีของศัตรู ทั้งยังมีพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์สำหรับการเพาะปลูกขนาดใหญ่ได้ เป็นเมืองหลวงที่มีความเจิรญรุ่งเรืองอย่างมาก

ศิลาจารึกที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ศิลาจารึกที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ศิลาจารึกที่ใหญ่ที่สุดในโลกศิลาจารึกที่ใหญ่ที่สุดในโลก

วัฏฏะทาเคหรือวิหารคตวงกลม
วัฏฏะทาเคหรือวิหารคตวงกลม
วัฏฏะทาเคหรือวิหารคตวงกลม วัฏฏะทาเคหรือวิหารคตวงกลม
เวชยันต์ปราสาท
เป็นอาคารก่ออิฐขนาดใหญ่ ตามพงศาวดารจุลวงศ์ เป็นวังสูง 7 ชั้น มีบันไดอิฐขึ้นไป 3 ขั้น และในชั้นสูงๆก่อสร้างด้วยไม้ ซึ่งในปัจจุบันยังคงเหลือให้เห็นเพียง 3 ชั้นเท่านั้น
เป็นอาคารก่ออิฐขนาดใหญ่ ตามพงศาวดารจุลวงศ์ เป็นวังสูง 7 ชั้น มีบันไดอิฐขึ้นไป 3 ขั้น และในชั้นสูงๆก่อสร้างด้วยไม้ ซึ่งในปัจจุบันยังคงเหลือให้เห็นเพียง 3 ชั้นเท่านั้น

ด้านหน้าทางเข้าจากความสูงเดิม 7 ชั้น คงเหลือเพียว 3 ชั้น
ด้านหน้าทางเข้าจากความสูงเดิม 7 ชั้น คงเหลือเพียว 3 ชั้น
ด้านหน้าทางเข้าจากความสูงเดิม 7 ชั้น คงเหลือเพียว 3 ชั้นด้านหน้าทางเข้าจากความสูงเดิม 7 ชั้น คงเหลือเพียว 3 ชั้น

ส่านด้านในของเวชยันต์ปราสาท ในปัจจุบัน
ส่านด้านในของเวชยันต์ปราสาท ในปัจจุบัน
ส่านด้านในของเวชยันต์ปราสาท ในปัจจุบันส่านด้านในของเวชยันต์ปราสาท ในปัจจุบัน

อีกส่วนหนึ่งของภายในที่ยังหลงเหลืออยู่
อีกส่วนหนึ่งของภายในที่ยังหลงเหลืออยู่
อีกส่วนหนึ่งของภายในที่ยังหลงเหลืออยู่อีกส่วนหนึ่งของภายในที่ยังหลงเหลืออยู่

ส่วนของด้านหลังปราสาท
ส่วนของด้านหลังปราสาท
ส่วนของด้านหลังปราสาทส่วนของด้านหลังปราสาท
ลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม ยกพื้น 3 ชั้น ชั้นบนเป็นหลังคาไม้ ซึ่งยังปรากฏเสาหินอยู่ ซึ่งแม้ไม่มีผนังกำแพงแต่เชื่อว่าหลังคาคงลด ลงมาต่ำ ทำให้การประชุมลูกขุนมีความเป็นส่วนตัว กำแพง 3 ระดับแกะเป็นรูปสัตว์อย่างประณีต งดงามทั้งช้าง สิงโต และคนแคระ ส่วนบันได มีสิงห์หมอบเฝ้าตรงบันได จากตำนานที่บันทึกไว้ว่าท้องพระโรงนี้เข้าได้เฉพาะบุคคลระดับสูง

ส่วนที่เหลือที่ยังสมบูรณ์เพียงหลังคาเท่านั้นที่ขาดหายไป
ส่วนที่เหลือที่ยังสมบูรณ์เพียงหลังคาเท่านั้นที่ขาดหายไป
ส่วนที่เหลือที่ยังสมบูรณ์เพียงหลังคาเท่านั้นที่ขาดหายไปส่วนที่เหลือที่ยังสมบูรณ์เพียงหลังคาเท่านั้นที่ขาดหายไป

ส่วนของท้องพระโรง ที่สำหรับออกว่าราชการ กษัตริย์จะนั่งบนแท่นพระที่นั่ง โดยมีข้าราชการ ขุนนาง นั่งตามลำดับในส่วนที่ตรงกับเสา
ส่วนของท้องพระโรง ที่สำหรับออกว่าราชการ กษัตริย์จะนั่งบนแท่นพระที่นั่ง โดยมีข้าราชการ ขุนนาง นั่งตามลำดับในส่วนที่ตรงกับเสา
ส่วนของท้องพระโรง ที่สำหรับออกว่าราชการ กษัตริย์จะนั่งบนแท่นพระที่นั่ง โดยมีข้าราชการ ขุนนาง นั่งตามลำดับในส่วนที่ตรงกับเสาส่วนของท้องพระโรง ที่สำหรับออกว่าราชการ กษัตริย์จะนั่งบนแท่นพระที่นั่ง โดยมีข้าราชการ ขุนนาง นั่งตามลำดับในส่วนที่ตรงกับเสา
Nissanka Latha Mandapaya
นิสสังกลตามณฑป โดยพระเจ้าพระเจ้านิสสังมัลละ แม้มีขนาดเล็ก แต่ก็มีโครงสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ เสาหินด้านนอกมีลักษณะแบบขัดแตะแนวตั้ง- แนวนอน เหมือนเลียนแบบรั้วไม้ ส่วนเสาหินภายในสลักเป็นรูปก้านดอกบัว ด้านบนเป็นรูปดอกบัวแย้ม บริเวณตรงกลางมีพระเจดีย์เล็ก ๆ ตั้งอยู่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระเจ้าพระเจ้านิสสังกมัลละ เสด็จมาฟังพระภิกษุสวดพระพุทธวจนพระพุทธเจ้า

คงยังเหลือเสาส่วนตรงกลางเป็นที่สำหรับกษัตริย์นั่งฟังธรรม
คงยังเหลือเสาส่วนตรงกลางเป็นที่สำหรับกษัตริย์นั่งฟังธรรม
คงยังเหลือเสาส่วนตรงกลางเป็นที่สำหรับกษัตริย์นั่งฟังธรรมคงยังเหลือเสาส่วนตรงกลางเป็นที่สำหรับกษัตริย์นั่งฟังธรรม

ลักษณะหัวเสาจะมีลักษณะแปลกกว่าอาคารอื่นๆ
ลักษณะหัวเสาจะมีลักษณะแปลกกว่าอาคารอื่นๆ
ลักษณะหัวเสาจะมีลักษณะแปลกกว่าอาคารอื่นๆลักษณะหัวเสาจะมีลักษณะแปลกกว่าอาคารอื่นๆ
สระสรงน้ำ
สำหรับราชินี และข่าราชบริพาล เพื่อทรงพระเกษมสำราญ ส่วนน้ำที่นำมาใช้สรงนั้น เป็นน้ำจากอ่างเก็บน้ำโดยการต่อท่อมายังก้นสระเลย

น้ำที่ใช้จะมีท่อต่อจากอ่างเก็บน้ำโดยตรงเลย
น้ำที่ใช้จะมีท่อต่อจากอ่างเก็บน้ำโดยตรงเลย
น้ำที่ใช้จะมีท่อต่อจากอ่างเก็บน้ำโดยตรงเลยน้ำที่ใช้จะมีท่อต่อจากอ่างเก็บน้ำโดยตรงเลย
ศิวะเทวาลัย 1 และ 2
เป็นเทวาลัยฮินดู อยู่ในช่วง ศต. ที่ 13 แสดงถึงอิทธิพลของอินเดียอีกครั้ง หลังความรุ่งเรืองถึงขีดสุดของโปโลนนารุวะ ลักษณะเด่นที่สุดคือความประนีตของงานหิน ที่สามารถต่อเข้ากันได้อย่างสนิทแม้จะมีรูปทรงต่างกัน ลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมแบบปาณฑยะ
เป็นเทวาลัยฮินดู อยู่ในช่วง ศต. ที่ 13 แสดงถึงอิทธิพลของอินเดียอีกครั้ง หลังความรุ่งเรืองถึงขีดสุดของโปโลนนารุวะ ลักษณะเด่นที่สุดคือความประนีตของงานหิน ที่สามารถต่อเข้ากันได้อย่างสนิทแม้จะมีรูปทรงต่างกัน ลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมแบบปาณฑยะ

เทวาลัยสำหรับทำพิธีสำคัญทางศาสนา
เทวาลัยสำหรับทำพิธีสำคัญทางศาสนา
เทวาลัยสำหรับทำพิธีสำคัญทางศาสนาเทวาลัยสำหรับทำพิธีสำคัญทางศาสนา
Atadage - อตะคาเท
หมายถึงวิหารของพระเขี้ยวแก้ว 8 องค์ เคยเป็นที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วของเมืองโบโลนนารุวะ บางครั้งจึงเรียกว่า วิหารพระเขี้ยวแก้ว สร้างโดยพระเจ้าวิชัยพาหุที่ 1 ภาพบนเสาหินทำเป็นลวดลายเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ถือเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดในวิหารนี้ โครงสร้างชั้นบนเป็นไม้ซึ่งพังไปหมดแล้ว
หมายถึงวิหารของพระเขี้ยวแก้ว 8 องค์ เคยเป็นที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วของเมืองโบโลนนารุวะ บางครั้งจึงเรียกว่า วิหารพระเขี้ยวแก้ว สร้างโดยพระเจ้าวิชัยพาหุที่ 1 ภาพบนเสาหินทำเป็นลวดลายเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ถือเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดในวิหารนี้ โครงสร้างชั้นบนเป็นไม้ซึ่งพังไปหมดแล้ว


ไม่ว่าจะเป็นทางขึ้นทิศใดจะมีพระพุทธรูปตรงทางขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นทางขึ้นทิศใดจะมีพระพุทธรูปตรงทางขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นทางขึ้นทิศใดจะมีพระพุทธรูปตรงทางขึ้นไม่ว่าจะเป็นทางขึ้นทิศใดจะมีพระพุทธรูปตรงทางขึ้น

อีกมุมมองหนึ่งของวัฏฏะทาเคหรือวิหารคตวงกลม
อีกมุมมองหนึ่งของวัฏฏะทาเคหรือวิหารคตวงกลม
อีกมุมมองหนึ่งของวัฏฏะทาเคหรือวิหารคตวงกลม อีกมุมมองหนึ่งของวัฏฏะทาเคหรือวิหารคตวงกลม
ไม่ทราบว่าผู้ใดสร้าง แม้จะเป็นวิหารเล็ก ๆ แต่เรียกได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมของโบโลนนารุวะ ที่ถึงจุดที่สมบูรณ์สูงสุด มีความแข็งแรงและสวยงาม เป็นวิหารเดียวที่ยังมีหลังคารูปโค้งแบบกระทะคว่ำอยู่ รูปแบบวิหารแสดงถึงอิทธิพลของศาสนาฮินดู ผนังก่อด้วยอิฐ ความหนาถึง 2.10 เมตรยอดของอาคารประดับตกแต่งด้วยลวดลายดอกบัวภายในค่อนข้างมืด มีพระพุทธรูปสลักหินอยู่หลายองค์

ถึงจะเล็กแต้ว่สวยงามมาก
ถึงจะเล็กแต้ว่สวยงามมาก
ถึงจะเล็กแต้ว่สวยงามมากถึงจะเล็กแต้ว่สวยงามมาก

ความสวยงามของผนังด้านข้าง
ความสวยงามของผนังด้านข้าง
ความสวยงามของผนังด้านข้างความสวยงามของผนังด้านข้าง

พระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ในวิหาร
พระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ในวิหาร
พระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ในวิหาร
ในภาษาสิงหล เป็นสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของศรีลังกาโบราณ เป็นหินแกะสลักอย่างประณีต รูปทรงครึ่งวงกลม มักจะวางไว้ที่ด้านล่างของบันไดหรือทางเข้า รูปแกะสลักแต่ละรอบภายในครึ่งวงกลมนี้ จะเป็นภาพต่อเนื่องอยู่ภายในกรอบที่เป็นเปลวเพลิงบริสุทธิ์ ลวดลายต่าง ๆ จะมีความหมายเชิงสัญญลักษณ์ เช่น
- ช้าง - หมายถึงการเกิด, ม้า - ความชรา, สิงห์โต - ความเจ็บไข้, วัว - ความตายและการเน่าเปื่อย, ห่าน - ความบริสุทธิ์, งู - ตันหาและความต้องการ ตรงกลางจะเป็น ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์

ก่อนทางเข้าหรือขึ้นอาคารสถานที่จะต้องมีมูนสโตนทุกที่
ก่อนทางเข้าหรือขึ้นอาคารสถานที่จะต้องมีมูนสโตนทุกที่
ก่อนทางเข้าหรือขึ้นอาคารสถานที่จะต้องมีมูนสโตนทุกที่ก่อนทางเข้าหรือขึ้นอาคารสถานที่จะต้องมีมูนสโตนทุกที่

ให้ท่านได้เห็นของจริงซึ่งยังชัดคมอยู่
ให้ท่านได้เห็นของจริงซึ่งยังชัดคมอยู่
ให้ท่านได้เห็นของจริงซึ่งยังชัดคมอยู่ให้ท่านได้เห็นของจริงซึ่งยังชัดคมอยู่
อาคารสำหรับการบูชา
เพื่อทำการสักการะ Shrine to a Bodhisattva
เพื่อทำการสักการะ Shrine to a Bodhisattva

ทุกอาคารสถานที่จะมีมูนสโตนเป็นคติเตือนผู้ที่มาเยือน
ทุกอาคารสถานที่จะมีมูนสโตนเป็นคติเตือนผู้ที่มาเยือน
ทุกอาคารสถานที่จะมีมูนสโตนเป็นคติเตือนผู้ที่มาเยือนทุกอาคารสถานที่จะมีมูนสโตนเป็นคติเตือนผู้ที่มาเยือน
ศิลาจารึก
ที่เห็นอยู่นี้ไกด์แนะนำว่าเป็นศิลาจารึกที่ใหญ่ที่สุดในโลก คาดว่าเป็นการนำมาจากเมืออนุราธปุระ โดยการใช้ช้าง สองเชือกทำการลากจูงมาและเพื่อเป็นการระลึกถึงความดีจึงได้แกะสลักรูปช้างไว้บนศิลาจารึกนี้ด้วย
ที่เห็นอยู่นี้ไกด์แนะนำว่าเป็นศิลาจารึกที่ใหญ่ที่สุดในโลก คาดว่าเป็นการนำมาจากเมืออนุราธปุระ โดยการใช้ช้าง สองเชือกทำการลากจูงมาและเพื่อเป็นการระลึกถึงความดีจึงได้แกะสลักรูปช้างไว้บนศิลาจารึกนี้ด้วย

รูปแกะสลักช้างแกะเพื่อเป็นเกรียติที่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างศิลาจารึกนี้
รูปแกะสลักช้างแกะเพื่อเป็นเกรียติที่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างศิลาจารึกนี้
รูปแกะสลักช้างแกะเพื่อเป็นเกรียติที่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างศิลาจารึกนี้รูปแกะสลักช้างแกะเพื่อเป็นเกรียติที่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างศิลาจารึกนี้
Rankoth Vehera
เป็นเจดีย์ที่ก่อด้วยอิฐ สร้างโดยกษัตริย์ Nissanka Malla ซึ่งครองราชย์ระหว่างปี คศ. 1187-1196 ลักษณะของเจดีย์จะเหมือนกับเจดีย์ Ruwanwelisaya ที่เมืองอนุราธปุระ โดยความหมายในภาษาสิงหล Ran แปลว่า ทอง kotha คิอ ส่วนยอดของเจดีย์ Vehera คือสถูป หรือเจดีย์ โดยรวมก็คือเจดีย์ที่มีส่วนยอดเป็นทอง และเป็นเจดีย์ที่สำคัญที่ชาวพุทธศรีลังกาให่ความเคารพนับถือ
เป็นเจดีย์ที่ก่อด้วยอิฐ สร้างโดยกษัตริย์ Nissanka Malla ซึ่งครองราชย์ระหว่างปี คศ. 1187-1196 ลักษณะของเจดีย์จะเหมือนกับเจดีย์ Ruwanwelisaya ที่เมืองอนุราธปุระ โดยความหมายในภาษาสิงหล Ran แปลว่า ทอง kotha คิอ ส่วนยอดของเจดีย์ Vehera คือสถูป หรือเจดีย์ โดยรวมก็คือเจดีย์ที่มีส่วนยอดเป็นทอง และเป็นเจดีย์ที่สำคัญที่ชาวพุทธศรีลังกาให่ความเคารพนับถือ

จากภายนอกยังมีความสมบูรณ์สวยงาม
จากภายนอกยังมีความสมบูรณ์สวยงาม
จากภายนอกยังมีความสมบูรณ์สวยงามจากภายนอกยังมีความสมบูรณ์สวยงาม
กัลวิหาร Galvihara
กัลวิหาร หรือวิหารหิน เป็นการแกะสลัก หินแกรนิตขนาดใหญ่ เป็นพระพุทธรูป เช่น พระพุทธรูปยืน นั่งปางสมาธิ และปางปรินิพพาน สลักจากภูเขาหินชิ้นเดียว ใกล้กันนั้นมีการแกะสลักหินเป็นถ้ำเล็ก เรียกว่า ถ้ำวิทยหาร มีทางเขาที่แกะสลักเป็นนาคและสิ่งศักสิทธิ์ ของฮินดู ข้างในมีพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งเป็นทรงสมาธิ

จากภาพจะสังเกตุว่าเป็นการแกะสักจากเขาจริงๆ
จากภาพจะสังเกตุว่าเป็นการแกะสักจากเขาจริงๆ
จากภาพจะสังเกตุว่าเป็นการแกะสักจากเขาจริงๆจากภาพจะสังเกตุว่าเป็นการแกะสักจากเขาจริงๆ

อีกมมุมมองหนึ่งของกัลวิหาร
อีกมมุมมองหนึ่งของกัลวิหาร
อีกมมุมมองหนึ่งของกัลวิหารอีกมมุมมองหนึ่งของกัลวิหาร
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเขต Matale จังหวัดเซ็นทรัลของประเทศศรีลังกาตั้งอยู่ 148 กม. ทางตะวันออกเฉียงเหนือของโคลัมโบ, 43 กม. ทางเหนือของ Matale และ 72 กม. ทางเหนือของแคนดี เนื่องจากเป็นที่ตั้งของชุมทางที่สำคัญจึงเป็นศูนย์กลางของการกระจายผักในประเทศด้วย

พระพุทธรูปประดิษฐานด้านหน้าวัดถ้ำดัมบูลล่า
พระพุทธรูปประดิษฐานด้านหน้าวัดถ้ำดัมบูลล่า
พระพุทธรูปประดิษฐานด้านหน้าวัดถ้ำดัมบูลล่าพระพุทธรูปประดิษฐานด้านหน้าวัดถ้ำดัมบูลล่า
วัดถ้ำดัมบูลล่า
เป็นวัดที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี พ.ศ.2534 เป็นมรดกโลกแห่งล่าสุดในศรีลังกา สร้างโดยพระเจ้าวาลากัมบา หรือพระเจ้าวัฏฏคามณีอภัย โดยพระองค์ทรงเคยพำนักในถ้ำแห่งนี้ ช่วงที่พระองค์เสด็จพลัดถิ่นจากเมืองอนุราชปุระ เพื่อเป็นการตั้งหลักก่อนที่จะรวบรวมไพร่พลกลับไปรบกันอีกครั้งหนึ่ง ต่อมาเมื่อพระองค์ทรงรบชนะ และเสด็จกลับขึ้นครองราชย์ พระองค์ได้ทรงสร้างวิหารศิลาภายในถ้ำ ที่ดัมบูลลานี้ ภายในมีถ้ำทั้งหมด 5 ถ้ำ มีขนาดใหญ่เล็กแตกต่างกัน โดยมีพระพุทธรูปประดิษฐาน 153 องค์
เป็นวัดที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี พ.ศ.2534 เป็นมรดกโลกแห่งล่าสุดในศรีลังกา สร้างโดยพระเจ้าวาลากัมบา หรือพระเจ้าวัฏฏคามณีอภัย โดยพระองค์ทรงเคยพำนักในถ้ำแห่งนี้ ช่วงที่พระองค์เสด็จพลัดถิ่นจากเมืองอนุราชปุระ เพื่อเป็นการตั้งหลักก่อนที่จะรวบรวมไพร่พลกลับไปรบกันอีกครั้งหนึ่ง ต่อมาเมื่อพระองค์ทรงรบชนะ และเสด็จกลับขึ้นครองราชย์ พระองค์ได้ทรงสร้างวิหารศิลาภายในถ้ำ ที่ดัมบูลลานี้ ภายในมีถ้ำทั้งหมด 5 ถ้ำ มีขนาดใหญ่เล็กแตกต่างกัน โดยมีพระพุทธรูปประดิษฐาน 153 องค์

อาคารด้านหน้าในส่วนของแต่ละถ้ำ
อาคารด้านหน้าในส่วนของแต่ละถ้ำ
อาคารด้านหน้าในส่วนของแต่ละถ้ำอาคารด้านหน้าในส่วนของแต่ละถ้ำ
ศิลาจารึก
เป็นศิลาจารึก ในภาษาสิงหล ชี้แจงรายละเอียด ประวัติศาสตร์ ของถ้ำดัมบูลล่าทั้ง 5 ถ้ำ
เป็นศิลาจารึก ในภาษาสิงหล ชี้แจงรายละเอียด ประวัติศาสตร์ ของถ้ำดัมบูลล่าทั้ง 5 ถ้ำ

ไกด์กำลังอธิบายรายละเอียดให้กับนักท่องเที่ยว
ไกด์กำลังอธิบายรายละเอียดให้กับนักท่องเที่ยว
ไกด์กำลังอธิบายรายละเอียดให้กับนักท่องเที่ยวไกด์กำลังอธิบายรายละเอียดให้กับนักท่องเที่ยว

ภายในถ้ำที่ 1 ซึ่งเป็นห้องเล็กไม้ใหญ่ความชื้นทำให้ภาพบนผนังเสียหาย
ภายในถ้ำที่ 1 ซึ่งเป็นห้องเล็กไม้ใหญ่ความชื้นทำให้ภาพบนผนังเสียหาย
ภายในถ้ำที่ 1 ซึ่งเป็นห้องเล็กไม้ใหญ่ความชื้นทำให้ภาพบนผนังเสียหายภายในถ้ำที่ 1 ซึ่งเป็นห้องเล็กไม้ใหญ่ความชื้นทำให้ภาพบนผนังเสียหาย
พระพุทธรูปปางต่างๆที่มีอยู่ในถ้ำตั้งแต่ถ้ำที่ 2 ถึงถ้ำที่ 5 วัดดัมบูลล่า

ถึงแม้กาลเวลาจะผ่านมานานแต่ความสวยงามยังปรากฎอยู่ทุกส่วนของถ้ำ
ถึงแม้กาลเวลาจะผ่านมานานแต่ความสวยงามยังปรากฎอยู่ทุกส่วนของถ้ำ
ถึงแม้กาลเวลาจะผ่านมานานแต่ความสวยงามยังปรากฎอยู่ทุกส่วนของถ้ำถึงแม้กาลเวลาจะผ่านมานานแต่ความสวยงามยังปรากฎอยู่ทุกส่วนของถ้ำ

ถ้ำที่ 4 และถ้ำที่ 5 ค่อนข้างใหญ่ เดินชมได้สบายๆ
ถ้ำที่ 4 และถ้ำที่ 5 ค่อนข้างใหญ่ เดินชมได้สบายๆ
ถ้ำที่ 4 และถ้ำที่ 5 ค่อนข้างใหญ่ เดินชมได้สบายๆถ้ำที่ 4 และถ้ำที่ 5 ค่อนข้างใหญ่ เดินชมได้สบายๆ

ความสวยงามส่วนของพระพุทธรูปที่ตัดกับภาพบนเพดาน
ความสวยงามส่วนของพระพุทธรูปที่ตัดกับภาพบนเพดาน
ความสวยงามส่วนของพระพุทธรูปที่ตัดกับภาพบนเพดานความสวยงามส่วนของพระพุทธรูปที่ตัดกับภาพบนเพดาน

ภาพสีเฟรสโก้ บนเพดานถ้ำยังคงสดใสสวยงาม
ภาพสีเฟรสโก้ บนเพดานถ้ำยังคงสดใสสวยงาม
ภาพสีเฟรสโก้ บนเพดานถ้ำยังคงสดใสสวยงามภาพสีเฟรสโก้ บนเพดานถ้ำยังคงสดใสสวยงาม

รูปวาดพระพุทธรูป หมู่เหล่าเทวดา ที่วาดทั้งบนผนังและเพดานของถ้ำ ซึ่งความสวยงามยังคงอยู่แม้เวลาผ่านมาแล้วหลายร้อยปี
รูปวาดพระพุทธรูป หมู่เหล่าเทวดา ที่วาดทั้งบนผนังและเพดานของถ้ำ ซึ่งความสวยงามยังคงอยู่แม้เวลาผ่านมาแล้วหลายร้อยปี
รูปวาดพระพุทธรูป หมู่เหล่าเทวดา ที่วาดทั้งบนผนังและเพดานของถ้ำ ซึ่งความสวยงามยังคงอยู่แม้เวลาผ่านมาแล้วหลายร้อยปีรูปวาดพระพุทธรูป หมู่เหล่าเทวดา ที่วาดทั้งบนผนังและเพดานของถ้ำ ซึ่งความสวยงามยังคงอยู่แม้เวลาผ่านมาแล้วหลายร้อยปี

อีกมุมหน่งของความสวยงามในถ้ำที่ 5
อีกมุมหน่งของความสวยงามในถ้ำที่ 5
อีกมุมหน่งของความสวยงามในถ้ำที่ 5 อีกมุมหน่งของความสวยงามในถ้ำที่ 5
เป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลกของศรีลังกา และเคยเป็นที่มั่นสุดท้ายของกษัตริย์สิงหล ก่อนการยกดินแดนให้กับจักรวรรดิอังกฤษใน ค.ศ. 1815 แคนดี้ มีชื่อว่า ศิริวัฒนานคร หรือ สิงหขันธนคร ในภาษาสิงหลเรียก ขันธะ หมายถึงกองหินหรือภูเขา เมื่อฝรั่งตะวันตกเข้าครองเมือง ขันธะ จึงออกสำเนียง ตามฝรั่งว่า แคนดิ หรือ แคนดี้นั่นเอง

จากจุดชมวิวเมืองแคนดี้
จากจุดชมวิวเมืองแคนดี้
จากจุดชมวิวเมืองแคนดี้จากจุดชมวิวเมืองแคนดี้

ยามเช้าที่เมืองแคนดี้
ยามเช้าที่เมืองแคนดี้
ยามเช้าที่เมืองแคนดี้ยามเช้าที่เมืองแคนดี้
ตามประวัติที่ได้กล่าวกันมาคือพระเถระรูปหนึ่งได้นำพระเขี้ยวแก้วไปมอบให้กับพระเจ้าพรหมทัตต์ แห่งนคร ทันตปุระ ต่อมาสมัยพระเจ้าคุหะสีวะ ได้มีข้าศึกมาประชิดเมือง พระองค์ทรงเป็นห่วงพระเขี้ยว-แก้ว จึงมีพระบรมราชโองการให้เจ้าหญิงเหมมาลา ราชธิดากับเจ้าชายทันตกุมารซึ่งเป็นพระนัดดาและพระสวามีของเจ้าหญิงเหมมาลา ให้นำพระเขี้ยวแก้วไปสู่เกาะลังกา ทั้งสองพระองค์ต้องปลอมตัวเป็นพราหมณ์ ซ่อนพระเขี้ยวแก้วไว้ที่มวยผมของเจ้าหญิงเหมมาลาและต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายและเมื่อไปถึงก็ได้นำถวายแด่พระเจ้าเกียรติเมฆวรรณ ที่นครอนุราธปุระ เกาะลังกา

ทะเลสสาบแคนดี้ยามเช้า
ทะเลสสาบแคนดี้ยามเช้า
ทะเลสสาบแคนดี้ยามเช้าทะเลสสาบแคนดี้ยามเช้า

ประตูทางเข้าด้านหน้า เป็นลักษณะเหมือนลอดอุโมงค์
ประตูทางเข้าด้านหน้า เป็นลักษณะเหมือนลอดอุโมงค์
ประตูทางเข้าด้านหน้า เป็นลักษณะเหมือนลอดอุโมงค์ ประตูทางเข้าด้านหน้า เป็นลักษณะเหมือนลอดอุโมงค์

ประตูทางขึ้นสู่ชั้นที่ 2 ส่วนที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้ว
ประตูทางขึ้นสู่ชั้นที่ 2 ส่วนที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้ว
ประตูทางขึ้นสู่ชั้นที่ 2 ส่วนที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วประตูทางขึ้นสู่ชั้นที่ 2 ส่วนที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้ว

โดยปกติพระเขี้ยวแก้วจะครอบโดยระฆังทองตลอดเวลา
โดยปกติพระเขี้ยวแก้วจะครอบโดยระฆังทองตลอดเวลา
โดยปกติพระเขี้ยวแก้วจะครอบโดยระฆังทองตลอดเวลาโดยปกติพระเขี้ยวแก้วจะครอบโดยระฆังทองตลอดเวลา

โต๊ะสำหรับวางดอกไม้สักการะพระเขี้ยวแก้ว
โต๊ะสำหรับวางดอกไม้สักการะพระเขี้ยวแก้ว
โต๊ะสำหรับวางดอกไม้สักการะพระเขี้ยวแก้วโต๊ะสำหรับวางดอกไม้สักการะพระเขี้ยวแก้ว

การเข้าไปชมพระเขียวแก้วส่วนที่ไกล้ที่สุด
การเข้าไปชมพระเขียวแก้วส่วนที่ไกล้ที่สุด
การเข้าไปชมพระเขียวแก้วส่วนที่ไกล้ที่สุดการเข้าไปชมพระเขียวแก้วส่วนที่ไกล้ที่สุด
เป็นวัดที่พระอุบาลีจากกรุงศรีอยุธยาได้มาทำการบรรพชาให้ภิกษุชาวศรีลังกาเป็นจุดเริ่มต้นของ ลัทธิสยามวงศ์ โดยวัดนี้ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความสัมพันธ์ของชาวไทยและศรีลังกาอันยาวนาน ให้ท่านได้ชมกุฏิ ห้องทำงาน ข้าวของเครื่องใช้ของพระอุบาลีในสมัยที่ท่านมาจำพรรษาอยู่ที่ประเทศศรีลังกาเพื่อช่วยกันฟื้นฟูพระพุทธศาสนาที่เสื่อมไปจากลังกา

ประตูทางเข้าด้านหน้าวัดพระอุบาลี
ประตูทางเข้าด้านหน้าวัดพระอุบาลี
ประตูทางเข้าด้านหน้าวัดพระอุบาลีประตูทางเข้าด้านหน้าวัดพระอุบาลี

ศาลารูปหล่อพระอุบาลี
ศาลารูปหล่อพระอุบาลี
ศาลารูปหล่อพระอุบาลีศาลารูปหล่อพระอุบาลี

ด้านหน้าห้องที่พระอุบาลีจำพรรษาอยู่ที่ศรีลังกา
ด้านหน้าห้องที่พระอุบาลีจำพรรษาอยู่ที่ศรีลังกา
ด้านหน้าห้องที่พระอุบาลีจำพรรษาอยู่ที่ศรีลังกาด้านหน้าห้องที่พระอุบาลีจำพรรษาอยู่ที่ศรีลังกา

จุดชมวิวเมืองแคนดี้
จุดชมวิวเมืองแคนดี้
จุดชมวิวเมืองแคนดี้จุดชมวิวเมืองแคนดี้

วัดพระเขี้ยวแก้วที่มองจากจุดชมวิวเมืองแคนดี้
วัดพระเขี้ยวแก้วที่มองจากจุดชมวิวเมืองแคนดี้
วัดพระเขี้ยวแก้วที่มองจากจุดชมวิวเมืองแคนดี้วัดพระเขี้ยวแก้วที่มองจากจุดชมวิวเมืองแคนดี้
Botanical Gardent
Royal Botanic Gardens ใน Peradeniya เป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดสวยงามและได้รับความนิยมมากที่สุดในศรีลังกา สวนมีพื้นที่ประมาณ 60 เฮคตาร์ ได้รวบรวมพันธุ์ไม้แปลก ๆ มากมาย ทั้งต้นไม้พุ่มไม้ดอกไม้และเครื่องเทศ
พิธีแห่พระเขี้ยวแก้ว
Esala Perahera เมืองกัณฏีหรือแคนดี้ จะมีการจัดงานช่วงประมาณเดือนสิงหาคม ของทุกปี เป็นงานเฉลิมฉลองทางศาสนาของประเทศศรีลังกาที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก และเป็นเทศกาลที่จัดติดต่อกันมาตั้งแต่สมัยอดีตกาล ชาวลังกามีความเชื่อถือว่า ถ้าฝนแล้ง เจ้าหน้าที่จะอัญเชิญ พระเขี้ยวแก้ว ออกแห่เพื่อขอฝน และทุกครั้งจะสัมฤทธิผลตามความปรารถนา
Kandy dance
เป็นไฮไลท์สิ่งหนึ่งที่เมื่อมาเที่ยวศรีลังกา เป็นการแสดงระบำพื้นเมืองจะต้องมาแวะชมให้ได้
With elaborate costumes, gyrating dance moves and show-stopping, fire-breathing stunts, a Kandyan dance performance is one of the defining experiences of a stay in Kandy. Calling it a traditional Kandyan dance performance is something of a misnomer as the shows are very much aimed at audience entertainment and contain dance routines and costumes from across the country, including the famous ‘devil’ dances of the west coast which are very hard to see in their home region
Royal Botanic Gardens ใน Peradeniya เป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดสวยงามและได้รับความนิยมมากที่สุดในศรีลังกา สวนมีพื้นที่ประมาณ 60 เฮคตาร์ ได้รวบรวมพันธุ์ไม้แปลก ๆ มากมาย ทั้งต้นไม้พุ่มไม้ดอกไม้และเครื่องเทศ

ต้นสนที่มีลักษณะพริ้วใหวดูสวยงาม
ต้นสนที่มีลักษณะพริ้วใหวดูสวยงาม
ต้นสนที่มีลักษณะพริ้วใหวดูสวยงามต้นสนที่มีลักษณะพริ้วใหวดูสวยงาม

ซุ้มต้นไม้ดอกไม้ที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม
ซุ้มต้นไม้ดอกไม้ที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม
ซุ้มต้นไม้ดอกไม้ที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงามซุ้มต้นไม้ดอกไม้ที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม

เด็กนักเรียนที่เข้ามาชมสวนระหว่างพักทานอาหารกลางวัน
เด็กนักเรียนที่เข้ามาชมสวนระหว่างพักทานอาหารกลางวัน
เด็กนักเรียนที่เข้ามาชมสวนระหว่างพักทานอาหารกลางวันเด็กนักเรียนที่เข้ามาชมสวนระหว่างพักทานอาหารกลางวัน
พิธีแห่พระเขี้ยวแก้ว
Esala Perahera เมืองกัณฏีหรือแคนดี้ จะมีการจัดงานช่วงประมาณเดือนสิงหาคม ของทุกปี เป็นงานเฉลิมฉลองทางศาสนาของประเทศศรีลังกาที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก และเป็นเทศกาลที่จัดติดต่อกันมาตั้งแต่สมัยอดีตกาล ชาวลังกามีความเชื่อถือว่า ถ้าฝนแล้ง เจ้าหน้าที่จะอัญเชิญ พระเขี้ยวแก้ว ออกแห่เพื่อขอฝน และทุกครั้งจะสัมฤทธิผลตามความปรารถนา

ขบวนแห้พระเขี้ยวแก้ว
ขบวนแห้พระเขี้ยวแก้ว
ขบวนแห้พระเขี้ยวแก้วขบวนแห้พระเขี้ยวแก้ว
เป็นไฮไลท์สิ่งหนึ่งที่เมื่อมาเที่ยวศรีลังกา เป็นการแสดงระบำพื้นเมืองจะต้องมาแวะชมให้ได้
With elaborate costumes, gyrating dance moves and show-stopping, fire-breathing stunts, a Kandyan dance performance is one of the defining experiences of a stay in Kandy. Calling it a traditional Kandyan dance performance is something of a misnomer as the shows are very much aimed at audience entertainment and contain dance routines and costumes from across the country, including the famous ‘devil’ dances of the west coast which are very hard to see in their home region

ฉากหนึ่งของระบำแคนดี้แด้นซ์
ฉากหนึ่งของระบำแคนดี้แด้นซ์
ฉากหนึ่งของระบำแคนดี้แด้นซ์ฉากหนึ่งของระบำแคนดี้แด้นซ์

เมื่อการแสดงบนเวทีจบแล้ว จะเป็นการโชว์เดินทาบนถ่านร้อนๆ และอมไฟ เป่าไฟ ซึ่งเรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมาก
เมื่อการแสดงบนเวทีจบแล้ว จะเป็นการโชว์เดินทาบนถ่านร้อนๆ และอมไฟ เป่าไฟ ซึ่งเรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมาก
เมื่อการแสดงบนเวทีจบแล้ว จะเป็นการโชว์เดินทาบนถ่านร้อนๆ และอมไฟ เป่าไฟ ซึ่งเรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมากเมื่อการแสดงบนเวทีจบแล้ว จะเป็นการโชว์เดินทาบนถ่านร้อนๆ และอมไฟ เป่าไฟ ซึ่งเรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมาก

ฉากสุดท้าย ของการแสดง Kandy Dance นักแสดงทุกคนออกมาพร้อมกัน ร่วมร้องเพลงเคารพธงชาติศรีลังกาและให้คนดูทุกคนยืนตรงเคารพเพลงชาติด้วย
ฉากสุดท้าย ของการแสดง Kandy Dance นักแสดงทุกคนออกมาพร้อมกัน ร่วมร้องเพลงเคารพธงชาติศรีลังกาและให้คนดูทุกคนยืนตรงเคารพเพลงชาติด้วย
ฉากสุดท้าย ของการแสดง Kandy Dance นักแสดงทุกคนออกมาพร้อมกัน ร่วมร้องเพลงเคารพธงชาติศรีลังกาและให้คนดูทุกคนยืนตรงเคารพเพลงชาติด้วยฉากสุดท้าย ของการแสดง Kandy Dance นักแสดงทุกคนออกมาพร้อมกัน ร่วมร้องเพลงเคารพธงชาติศรีลังกาและให้คนดูทุกคนยืนตรงเคารพเพลงชาติด้วย
ศรีลังกามีชื่อเสียง ด้านอัญมณีตั้งแต่ครั้งโบราณกาล จนกระทั่งมีฉายาเรียกเกาะศรีลังกาว่ารัตนทวีป หรือ เกาะแห่งอัญมณี บันทึกที่เก่าแก่ที่สุดของชาวตะวันตกซึ่งเอ่ยถึงอัญมณีจากศรีลังกาเป็นบันทึกของโทเลมี นักดาราศาสตร์ชาวอียิปต์ซึ่งมีชีวิตอยู่ระหว่างปี 633 – 711 ระบุว่า เบริล และแซปไฟร์เป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของศรีลังกา

สิกิริยา Sigiriya
อยู่ห่างจากเมือง Kandy ประมาณ 60 กม ใช้เวลาในการนั่งรถจากตัวเมือง Kandy ประมาณ 2-3 ชั่วโมง สิกิริยา หรือ หินราชสีห์ เป็นเมืองตอนกลางของประเทศศรีลังกา ประกอบด้วยหินปลักภูเขาไฟความสูงประมาณ 370 เมตร ซึ่งบนยอดเขานี้ในอดีตเป็นพระราชวังเก่า และระหว่างการเดินทางขึ้นสู่จุดสุดยอด ท่านจะได้ชมสิ่งมหัศจรรย์ที่รู้จักกันดีในชื่อ LION ROCK หรือ แท่นศิลาราชสีห์ และภาพเขียนสีน้ำของชาวสิงหล เป็นภาพนางอัปสรสวรรค์ ที่มีอายุพันกว่าปีและถูกจัดให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
อยู่ห่างจากเมือง Kandy ประมาณ 60 กม ใช้เวลาในการนั่งรถจากตัวเมือง Kandy ประมาณ 2-3 ชั่วโมง สิกิริยา หรือ หินราชสีห์ เป็นเมืองตอนกลางของประเทศศรีลังกา ประกอบด้วยหินปลักภูเขาไฟความสูงประมาณ 370 เมตร ซึ่งบนยอดเขานี้ในอดีตเป็นพระราชวังเก่า และระหว่างการเดินทางขึ้นสู่จุดสุดยอด ท่านจะได้ชมสิ่งมหัศจรรย์ที่รู้จักกันดีในชื่อ LION ROCK หรือ แท่นศิลาราชสีห์ และภาพเขียนสีน้ำของชาวสิงหล เป็นภาพนางอัปสรสวรรค์ ที่มีอายุพันกว่าปีและถูกจัดให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก

มุมมองด้านข้างของสิกิริยา
มุมมองด้านข้างของสิกิริยา
มุมมองด้านข้างของสิกิริยามุมมองด้านข้างของสิกิริยา

ด้านหน้าทางเข้าตกแต่งไว้สวยงาม
ด้านหน้าทางเข้าตกแต่งไว้สวยงาม
ด้านหน้าทางเข้าตกแต่งไว้สวยงามด้านหน้าทางเข้าตกแต่งไว้สวยงาม

ผังบริเวณที่แสดงให้เรารู้ว่าเมืองมรดกโลก สิกิริยา นั้นมีสิ่งปลูกสร้างอยู่ส่วนใดบ้าง
ผังบริเวณที่แสดงให้เรารู้ว่าเมืองมรดกโลก สิกิริยา นั้นมีสิ่งปลูกสร้างอยู่ส่วนใดบ้าง
ผังบริเวณที่แสดงให้เรารู้ว่าเมืองมรดกโลก สิกิริยา นั้นมีสิ่งปลูกสร้างอยู่ส่วนใดบ้างผังบริเวณที่แสดงให้เรารู้ว่าเมืองมรดกโลก สิกิริยา นั้นมีสิ่งปลูกสร้างอยู่ส่วนใดบ้าง
ก่อนการเดินทางขึ้น สิกิริยา ขอแนะนำว่าควรจะเข้าไปดูพิพิธภัณฑ์ของสถานที่นี้เสียก่อน เพื่อรู้ประวัติ และชมของโบราณที่นำมาแสดงไว้ซึ่ง พิพิธภัณฑ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากประเทศญี่ปุ่น

ป้ายด้านหน้าพิพิธภัณฑ์
ป้ายด้านหน้าพิพิธภัณฑ์
ป้ายด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ป้ายด้านหน้าพิพิธภัณฑ์

เมื่อเริ่มเดินขึ้นหากเป็นผู้อาวุโสหน่อยจะมีไก์ส่วนตัวชาวศรีลังกา มาเป็นตัวช่วยพยุงตลอดเส้นทาง แต่พอลงมาถึงด้านล่างก็ต้องมีทิปให้พอสมควร แต่ที่พิเศษสำหรับผู้ช่วยเหล่านี้คือ เต่าค่อนข้างแรง
เมื่อเริ่มเดินขึ้นหากเป็นผู้อาวุโสหน่อยจะมีไก์ส่วนตัวชาวศรีลังกา มาเป็นตัวช่วยพยุงตลอดเส้นทาง แต่พอลงมาถึงด้านล่างก็ต้องมีทิปให้พอสมควร แต่ที่พิเศษสำหรับผู้ช่วยเหล่านี้คือ เต่าค่อนข้างแรง
เมื่อเริ่มเดินขึ้นหากเป็นผู้อาวุโสหน่อยจะมีไก์ส่วนตัวชาวศรีลังกา มาเป็นตัวช่วยพยุงตลอดเส้นทาง แต่พอลงมาถึงด้านล่างก็ต้องมีทิปให้พอสมควร แต่ที่พิเศษสำหรับผู้ช่วยเหล่านี้คือ เต่าค่อนข้างแรงเมื่อเริ่มเดินขึ้นหากเป็นผู้อาวุโสหน่อยจะมีไก์ส่วนตัวชาวศรีลังกา มาเป็นตัวช่วยพยุงตลอดเส้นทาง แต่พอลงมาถึงด้านล่างก็ต้องมีทิปให้พอสมควร แต่ที่พิเศษสำหรับผู้ช่วยเหล่านี้คือ เต่าค่อนข้างแรง

เส้นทางค่อยๆ ชันและสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครบ 1,020 ขั้น ตามที่นับเอาไว้
เส้นทางค่อยๆ ชันและสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครบ 1,020 ขั้น ตามที่นับเอาไว้
เส้นทางค่อยๆ ชันและสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครบ 1,020 ขั้น ตามที่นับเอาไว้เส้นทางค่อยๆ ชันและสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครบ 1,020 ขั้น ตามที่นับเอาไว้

ทางขึ้นเขา สิกิริยา ในช่วงแรกตอนปลายก่อนจะถึงที่พักเหนื่อย
ทางขึ้นเขา สิกิริยา ในช่วงแรกตอนปลายก่อนจะถึงที่พักเหนื่อย
ทางขึ้นเขา สิกิริยา ในช่วงแรกตอนปลายก่อนจะถึงที่พักเหนื่อยทางขึ้นเขา สิกิริยา ในช่วงแรกตอนปลายก่อนจะถึงที่พักเหนื่อย

ถึงลานพัก พร้อมเป็นจุดชมวิวด้วย ก่อนที่จะเดินทางต่อสู่ช่วงที่เป็นภาพวาดสีเฟรสโก้
ถึงลานพัก พร้อมเป็นจุดชมวิวด้วย ก่อนที่จะเดินทางต่อสู่ช่วงที่เป็นภาพวาดสีเฟรสโก้
ถึงลานพัก พร้อมเป็นจุดชมวิวด้วย ก่อนที่จะเดินทางต่อสู่ช่วงที่เป็นภาพวาดสีเฟรสโก้ถึงลานพัก พร้อมเป็นจุดชมวิวด้วย ก่อนที่จะเดินทางต่อสู่ช่วงที่เป็นภาพวาดสีเฟรสโก้
ในสมัยโบราณนั้น จะวาดบนผนังหรือ เพดานของโบสถ์ ซึ่งเทคนิคการผสมสีเฟรสโก การใช้สีผสมกับนํ้าแล้ว ต้องทำการวาดลงบนปูนพลาสเตอร์บนผนังหรือ กำแพงโบสถ์ที่ต้องการจะวาด ขณะที่พื้นผิวของปูนพลาสเตอร์นั้นยังคงเปียกอยู่ หริอยังหมาดๆอยู่

ความสวยงามที่ยังคงให้เห็น
ความสวยงามที่ยังคงให้เห็น
ความสวยงามที่ยังคงให้เห็นความสวยงามที่ยังคงให้เห็น
ทำโดยการใช้ปูนขาว ทราย หรือผงของหินอ่อนนำมา ผสมกัน ที่สำคัญ ปูนขาวจะต้องนำไปตากให้แห้ง หากไม่แห้งจะทำให้เกิดการตกผลึกของพื้นผิวของ สีเฟรสโกและจะทำให้เกิดฟองอากาศขึ้นที่ผื้นผิว ทำให้พื้นผิวของภาพวาด จะไม่เรียบร้อย

หากเป็นบุคคลระดับสูงจะไม่ใส่เสื้อ
หากเป็นบุคคลระดับสูงจะไม่ใส่เสื้อ
หากเป็นบุคคลระดับสูงจะไม่ใส่เสื้อหากเป็นบุคคลระดับสูงจะไม่ใส่เสื้อ
เป็นจุดที่ได้ชื่อว่า LION ROCK หรือ แท่นศิลาราชสีห์ ก่อนเดินทางขึ้นจะต้องสวมชุดกันตัวต่อที่ทำรังอยู่ตามผนังกระจายอยู่ทั่วไป และต้องขอบอกว่าช่วงสุดท้ายนี้เป็นช่วงที่เหนื่อยสุดๆ


ลานพักแท่นศิลาราชสีห์
ลานพักแท่นศิลาราชสีห์
ลานพักแท่นศิลาราชสีห์ลานพักแท่นศิลาราชสีห์
จุดสูงสุดจะเป็นส่วนของพระราชวังซึ่งปัจจุบันจะมีลักษณะเหมือนวังโบราณทั่วๆไปที่ยังคงเหลือส่วนก่อสร้างพื้นฐานไว้ให้ได้ชมกัน









เมืองปลูกชาและดอกไม้เมือง นูวารา เอลิยา เมืองเล็กๆ อยู่บนภูเขาสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 2000 เมตร ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา มีอากาศหนาว และเย็น ตลอดปี ได้รับการขนานนามว่าเป็น Little England มีไร่ชา และ โรงงานผลิตชาจำนวนมาก ที่เรียกว่าชาซีลอน ได้รับการขนานนามว่าเป็นชาที่ดีติดอันดับโลกระหว่างการเดินทางสู่ Nuwara Eliya กรุ๊ปสามารถหยุดชมและถ่ายรูปของสวนชาซึ่งอยู่ติดกับถนนทั้งสองข้างทางเลย

รถนักท่องเที่ยวจอดแวะถ่ายรูปกับสวนชา
รถนักท่องเที่ยวจอดแวะถ่ายรูปกับสวนชา
รถนักท่องเที่ยวจอดแวะถ่ายรูปกับสวนชารถนักท่องเที่ยวจอดแวะถ่ายรูปกับสวนชา
สองข้างทางที่เป็นเนินเขาจะมีการปลูกชาซึ่งมีการปลูกตั้งแต่สมัยเป็ยอาณานิคมของอังกฤษ โดยคนงานเก็บชาส่วนใหญ่จะเป็นชาวทมิฬ

การเก็บใบชาของชาวศรีลังกาได้ ว่ามีวิธีการเก็บอย่างไร เพื่อให้ได้ชาที่ดีสู่ตลาดโลก
การเก็บใบชาของชาวศรีลังกาได้ ว่ามีวิธีการเก็บอย่างไร เพื่อให้ได้ชาที่ดีสู่ตลาดโลก
การเก็บใบชาของชาวศรีลังกาได้ ว่ามีวิธีการเก็บอย่างไร เพื่อให้ได้ชาที่ดีสู่ตลาดโลกการเก็บใบชาของชาวศรีลังกาได้ ว่ามีวิธีการเก็บอย่างไร เพื่อให้ได้ชาที่ดีสู่ตลาดโลก
โรงงานผลิตชา
ซึ่งจะมีมากมายหลายโรงงาน จะดูโรงใหนนั้น จะขึ้นอยู่กับไกด์ที่จะพาไปชม
ซึ่งจะมีมากมายหลายโรงงาน จะดูโรงใหนนั้น จะขึ้นอยู่กับไกด์ที่จะพาไปชม

สภาพภายนอกโรงงานผลิตชา
สภาพภายนอกโรงงานผลิตชา
สภาพภายนอกโรงงานผลิตชาสภาพภายนอกโรงงานผลิตชา

เป็นกรรมวิธีผลิตในช่วงแรก เป็นการตากใบชาที่เก็บมาได้ ก่อนสู่ขบวนการอบต่อไป
เป็นกรรมวิธีผลิตในช่วงแรก เป็นการตากใบชาที่เก็บมาได้ ก่อนสู่ขบวนการอบต่อไป
เป็นกรรมวิธีผลิตในช่วงแรก เป็นการตากใบชาที่เก็บมาได้ ก่อนสู่ขบวนการอบต่อไปเป็นกรรมวิธีผลิตในช่วงแรก เป็นการตากใบชาที่เก็บมาได้ ก่อนสู่ขบวนการอบต่อไป

ถึงเวลาแนะนำสินค้า ด้วยการเชิญชวนชิมชาในแต่ละชนิด
ถึงเวลาแนะนำสินค้า ด้วยการเชิญชวนชิมชาในแต่ละชนิด
ถึงเวลาแนะนำสินค้า ด้วยการเชิญชวนชิมชาในแต่ละชนิดถึงเวลาแนะนำสินค้า ด้วยการเชิญชวนชิมชาในแต่ละชนิด

ชิมแล้วชอบแบบใหน ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับลูกค้าแล้วว่าจะซื้อเป็นของฝาก หรือว่าซื้อไปดื่มเอง
ชิมแล้วชอบแบบใหน ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับลูกค้าแล้วว่าจะซื้อเป็นของฝาก หรือว่าซื้อไปดื่มเอง
ชิมแล้วชอบแบบใหน ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับลูกค้าแล้วว่าจะซื้อเป็นของฝาก หรือว่าซื้อไปดื่มเองชิมแล้วชอบแบบใหน ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับลูกค้าแล้วว่าจะซื้อเป็นของฝาก หรือว่าซื้อไปดื่มเอง
Victoria Park
Victoria Park is a public park located in Nuwara Eliya Originally the park was the research field of Hakgala Botanical Garden. The park was formally named in 1897 to commemorate Queen Victoria's Diamond Jubilee.[2] The park was established with the planting of its first tree, an Oak, by a visiting German Princess. The Nanu Oya River runs through the park, creating a number of small lakes. A number of rare bird species can be found in the park. At the far end of the park is a small children's playground and miniature ridable railway.
Victoria Park is a public park located in Nuwara Eliya Originally the park was the research field of Hakgala Botanical Garden. The park was formally named in 1897 to commemorate Queen Victoria's Diamond Jubilee.[2] The park was established with the planting of its first tree, an Oak, by a visiting German Princess. The Nanu Oya River runs through the park, creating a number of small lakes. A number of rare bird species can be found in the park. At the far end of the park is a small children's playground and miniature ridable railway.

