บริษัทฯ จึงขอหยุดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป
ทัวร์น่าน ดอยเสมอดาว บ่อเกลือ แพร่ 4 วัน 3 คืน
การท่องเที่ยวน่านครั้งนี้เป็นการนำเที่ยวของกรุ๊ปผู้สูงอายุที่ทาง AtSiamTour กำหนดให้เป็นการท่องเที่ยวแบบ Slow Life เน้นท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตของชุมชน วัฒนธรรมต่างๆ ชมธรรมชาติ ใหว้พระทำบุญ ช้อปปิ้งสินค้าชุมชนเพื่อเป็นการกระจายรายได้สู่ชนบท และเป็นการจัดแบบกรุ๊ปส่วนตัวไม่เกิน 10 คน




ขึ้นต้นไว้ว่าเที่ยวแบบ Slow Life ลองมาดูกันซิว่ามีอะไรที่น่าสนใจที่จะให้ชมบ้างในการเดินทางท่องเที่ยววันแรก ซึ่งโดยปกติจะเป็นการชมศิลปวัฒนธรรม ภาพจิตกรรมฝาผนังในโบสถ์วัดสำคัญๆของจังหวัดน่าน และที่สำคัญขาดไม่ได้คือพระธาตุแช่แห้ง พระธาตุประจำปีคนเกิดปีเถาะหรือปีกระต่ายนั่นเอง



เดินทางกลับเข้ามาในเมืองตรงที่เป็นข่วงเมืองหรือศูนย์กลางของตัวเมืองเข้าชมวัดภูมินทร์ที่ซึ่งโบสถ์กับวิหารเป็นอาคารเดียวกันหนึ่งเดียวในเมืองไทย



ก่อนเข้าชมวัดต่อสลับไปชม โฮงเจ้าฟองค่ำ ก่อนเพราะอากาศร้อนแต่ที่โฮงนี้บรรยากาศร่มเย็น เป็นบ้านโบราณที่ยังรักษาสภาพเดิมไว้ได้อย่างดีเยี่ยมพร้อมเครื่องใช้ต่างส่วนด้านล่างใต้ถุนบ้านมีการสาทิตการทอผ้าและมีสินค้าผ้าพื้นเมืองจำหน่าย



หลังจากเพลิดเพลินกับการสาธิตการทอผ้าด้วยกี่กระตุกและอุดหนุนสินค้าผ้าฝ้ายกันแล้วสิ่งสำคัญที่ไม่ควรพลาดคือการบริจาคเพื่อสบทบทุนให้กับเจ้าหน้าที่ที่คอยอำนวยความสะดวก พร้อมทั้งเล่าเรื่องประวัติต่างๆของโฮงเจ้าฟองคำให้นักท่องเที่ยวได้ฟัง...หลังจากนี้ก็จะเป็นเวลาของอาหารกลางวันที่เฮือนเจ้านาง

ช่วงบ่ายของวันแรกเดินทางออกสู่รอบนอกเมืองน่านยังพระธาตุเขาน้อย...ซึ่งเป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเขาน้อยโดยองค์พระธาตุบรรจุ พระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัม พุทธเจ้าได้ สันนิษฐานว่ามีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพระธาตุแช่แห้ง



กลับเข้ามาในเมืองใหว้ พระเจ้าทองทิพย์ พระพุทธรูปทองสำริด องค์ที่ใหญ่ที่สุดในล้านนา เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่วัดสวนตาล ..วัดสวนตาลนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พศ.1698 หรือประมาณ 860 ปีที่ผ่านมา ภายในบริเวณวัดยังมีพระธาตุสวนตาลและบ่อน้ำทิพย์ (บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์คู่บารมี )...ที่นี่ตรงประตูโบสถ์ด้านขวามือจะมีคุณลุงนั่งดีดซึงให้นักท่องเที่ยวฟังด้วย



โบสถ์อีกวัดหนึ่งที่สวยงามมากๆเพราะเป็นสีทองเหลืองอร่ามทั้งหลังเลย วัดศรีพันต้น... วัดศรีพันต้นเคยเป็นที่พำนักของหลวงปู่ครูชันทะ อดีตเจ้าอาวาส ซึ่งเป็นพระสงฆ์ผู้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ มีวิชารักษาคนป่วย ด้วยการเป่าคาถาเสกน้ำมนต์และการใช้สมุนไพรพื้นบ้านรักษาได้ผลดีมาก โดยเฉพาะโรคกระดูกและแผลอักเสบจากตุ่มฝีหนอง..นอกจากนี้ที่วัดยังมีภาพวาดบนผนังโบสถ์ที่สวยงามอีกด้วย



เดินทางต่อยัง วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร ภายในวัดประดิษฐาน เจดีย์ช้างค้ำ ซึ่งเป็นศิลปสมัยสุโขทัย อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 20 รอบเจดีย์มีรูปปั้นช้างปูนปั้น เพียงครึ่งตัว ประดับอยู่โดยรอบ



บ่ายๆหลังจากเสร็จจากการเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวแล้วเดินทางต่อยัง อำเภอนาน้อย ด้วยระยะทาง 60 กม.ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ถึงนาน้อยเข้าเช็คอินที่พัก อิสระตามอัธยาศัย ก่อนที่จะทานอาหารเย็นในบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติและแสงเทียน



เส้นทางท่องเที่ยววันที่สอง ก็จะเป็นอุทยานศรีน่าน ดอยเสมอดาว เฮือนรถถีบ วัดหนองบัว วัดภูเก็ต ..พักที่อำเภอปัว...เริ่มด้วยเช้าตรู่ประมาณตี 5 ออกจากที่พักนาน้อยเดินทางสู่อุทยานศรีน่าน ยัง ดอยเสมอดาว เพื่อชมความสวยงามยามพระอาทิตย์โผล่ขึ้นจากขอบฟ้า..ช่วงฤดูท่องเที่ยวต้องออกแต่เช้าหน่อยเพราะนักท่องเที่ยวจะมากต้องจอดรถไกลจากดอยเสมอดาวมาก





หลังการชมธรรมชาติแล้วเดินทางกลับรีสอร์ทที่พัก เพื่อทานอาหารเช้าและพักผ่อนก่อนที่จะเดินทางไปชมเสาดินนาน้อย


จากเสาดินนาน้อยเดินทางต่อยังอำเภอเวียงสาเพื่อเดินทางสู่อำเภอเมืองเพื่อทานอาหารกลางวันโดยระหว่างทางแวะชมพิพิธภัณฑ์รถจักรยานหรือเรียกว่า เฮือนรถถีบ ...เฮือนรถถีบนั้นเกิดจากเจ้าของเคยทำกิจการขายจักรยานต่อมาจึงได้คิดที่จะสะสมจักรยานรุ่นต่างๆเอาไว้เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ชมกัน



หลังอาหารแบบเมืองเหนือเช่น ข้าวซอย ขนมจีนน้ำเงี้ยว พร้อมเสริมด้วยลาบ น้ำพริกอ่อง ใส้อั่ว ปอเปี๋ยะทอด และอื่นที่ลูกค้าต้องการ เดินทางต่อยังอำเภอท่าวังผา..

การเดินทางช่วง อ.เมือง - อ.ท่าวังผา เส้นทางสะดวกสบายอยู่ระหว่างการซ่อมเป็นช่วงๆแต่ปริมาณรถน้อยเลยไม่มีปัญหาเรื่องรถติด ระหว่างทางนั่งดูวิวเพลินๆแป๊ปเดียวรถจอดให้เราลงตรงหน้าวัดหนองบัว แล้ว...วัดที่เก่าแก่ประจำหมู่บ้านหนองบัว ต. ป่าคา อ. ท่าวังผา จ. น่านอยู่ท่ามกลางหมู่บ้านไทยลื้ออัน สงบร่มเย็น วัดแห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งผลงานทางสถาปัตยกรรม และจิตรกรรม ชิ้นเอกของเมืองน่าน




ที่วัดหนองบัวยังมีสินค้าชุมชนให้นักท่องเที่ยวใด้ซื้อกลับไปเป็นของฝากอีกด้วย

ก่อนจะเข้าเช็คอินที่พักเลยไปแวะชมธรรมชาติที่วัดภูเก็ต...วัดภูเก็ต ถือว่าเป็นวัดที่มีภูมิทัศน์และ วิวที่สวยงาม โดยจุดเด่นของวัด คือ มีระเบียงชมวิวด้านหลังวัดติดกับทุ่งนาที่กว้างไกลพร้อมด้วยฉากหลัง เป็นภูเขาวนอุทยานดอยภูคา ในยามเช้าวัดภูเก็ตเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามอีกแห่งหนึ่ง




เส้นทางท่องเที่ยวในวันที่สาม จะเป็นเส้นทางขึ้นเขาสู่ อำเภอบ่อเกลือ ซึ่งจะผ่านจุดขมวิวหลายจุดที่สวยงาม ของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา เช่น ที่พักภายในอุทยานดอยภูคา จุดชมวิว 1715 จุดชมดาว เป็นต้น แต่ก่อนที่จะเดินทางสู่ขุนเขาแวะชมสินค้าพื้นเมืองและชิมกาแฟบ้านไทลื้อ ในบรรยากาศท้องทุ่งกันก่อน



บรรยากาศอำเภอปัว ยามเช้า

จุดชมวิวต่างๆระหว่างการเดินทางจากปัวสู่ อำเภอบ่อเกลือ ธรรมชาติจะสวยงามอย่างยิ่งหากมีฝนตกในช่วงเวลากลางคืนที่ผ่านมา




เมื่อขึ้นสู่จุดสูงสุดที่จุดชมวิว 1715 แล้วเดินทางค่อยๆใต่ลงมายังอำเภอบ่อเกลือ ซึ่งจะเป็นที่พักทานอาหารกลางวันที่แสนอร่อยที่บ่อเกลือริเวอร์วิวบาร์ เพราะที่นี่มีหลากหลายเมนูให้เลือกทาน สนนราคาอยู่ในระดับพอดีๆสำหรับมีกะตังค์สักหน่อยแต่ก็คุ้มค่าครับ



สุดท้ายหลังอาหารกลางวัน คือการชมการต้ม เกลือสินเธาว์ บนเขาสูง ต้องไปดูให้เห็นกับตาว่าบนเขาสูงจะมีเกลือได้อย่างไร และเมื่อมีน้ำเกลือแล้วทำอย่างไรถึงจะได้เกลือออกมาสู่ตลาดผู้ใช้ และหลังการชมการต้มเกลือเรียบร้อยแล้วเดินทางสู่เมืองน่านเพื่อเข้าเช็คอินที่พักโดยการพักโรงแรมกลางใจเมืองอย่างโรงแรมเทวราช...หลังอาหารเดินเล่นชมช้อปที่ข่วงเมืองตามอัธยาศัย ( ถนนคนเดินมีในวันศุกร์-อาทิตย์ )




เส้นทางเดินทางในวันที่สี่ จะเดินทางเข้าสู่ จังหวัดแพร่ โดยล้อจะทำการหมุนประมาณ 08.30 น.เพื่อจะได้มีเวลาที่ท่องเที่ยวในเมืองแพร่สักสองหรือสามแห่ง เช่น แพะเมืองผี วัดพระธาตุช่อแฮ ช้อปเสื้อม้อห้อมที่ทุ่งโฮ้ง ก่อนที่จะทานอาหารกลางวันด้วยเมนูขนมจีนน้ำเงี้ยว ข้าวผัดเมือง ส้มตำ ตบท้ายด้วยของหวาน ก่อนที่จะเดินทางเพื่อทำการเช็คอินและโหลดสัมภาระที่สนามบินแพร่ และบินกลับสู่สนามบินดอนเมืองเวลา 16.00 น.อย่างปลอดภัยด้วยสายการบินนกแอร์






